ทันหุ้น - EPG รับอานิสงส์โครงการ "เราชนะ"หนุนยอดบรรจุภัณฑ์อาหารกระฉูด  ผู้บริหาร"ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ "ปักธงผลงานงวดบัญชีปี 2564 รายได้ทะลุ 9 พันล้านบาท รับยานยนต์-EPPโตเด่น แถมย้ำราคาน้ำมันขยับไม่กระทบ ระบุสต๊อกต้นทุนต่ำไว้แล้ว ด้านโบรก แนะ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 12.50 บาท

ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ภาครัฐได้มีการโครงการ "เราชนะ" ซึ่งเปิดประชนชนทั่วไปลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือรวม 7,000บาท เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิด 19และกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น บริษัทเชื่อน่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจ เนื่องจากโครงการดังกล่าวน่าจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร (EPP) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้น

"ในช่วงที่ผ่านมาโครงการ "คนละครึ่ง" ของภาครัฐได้ช่วยกระตุ้นให้ยอดขายอาหารของผู้ประกอบการรายต่างๆ ขยายตัวค่อนข้างมาก และเราเองก็ได้ผลดีจากโครงดังกล่าว โดยเฉพาะกล่องใส่อาหารที่เพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของร้านค้าต่างๆ ซึ่งในส่วนของโครงการ "เราชน" ในครั้งนี้เชื่อคงจะเป็นผลดีกับ EPG เช่นเดียวกัน เพราะผู้ที่ได้รับจะสามารถ

ชำระค่าสินค้าผ่านร้านค้าที่มีแอพเป๋าตังเช่นเดียวกันโครงการก่อนหน้า" ดร.เฉลียวกล่าว

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุด พบว่า สัดส่วนรายได้ของ EPG แบ่งเป็น กลุ่มสินค้าในส่วนของ "AEROKLAS" ประมาณ 50%, กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารราว 20-30% ส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ "AEROFLEX"

ปีนี้รายได้ทะลุ9พันล.

อย่างไรก็ดี ในงวดบัญชีปี 2564 (เม.ย. 63- มี.ค.64) บริษัทประเมินว่ารายได้จะเติบโตมากกว่าที่เป้าที่ตั้งไว้ราว 9 พันล้านบาท เพราะคำสั่งซื้อ (ออเดอร์ในส่วนต่างๆ ขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "AEROKLAS" ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังลูกค้าหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง แทน "รถสาธารณะ" มากขึ้น หวังหลีกเลี่ยงและป้องกันความเสี่ยงจากโควิด 19 อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันทาง EPG ยังได้มีการนำนโยบายลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือ“USE” (U: Utilization การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า S:Save การประหยัดค่าใช้จ่าย และ E: Efficiencyการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน) มาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือปีนี้เติบโตได้ดียิ่งขึ้น

ด้านงบลงทุนงวด 3 ปีนับจากนี้ (งวดบัญชีปี 2564-66) บริษัทตั้งไว้ราว 589 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนในกลุ่ม "AEROFLEX" อยู่ที่ 376 ล้านบาท, เงินกลุ่มธุรกิจธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ราว 145 ล้านบาท, กลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารอีก 68 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินของธุรกิจโดยรวมให้ดีขึ้นและสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทางหนึ่ง

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้นบริษัทมองคงไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทาง EPG ได้มีการสำรองวัตถุดิบประเภทเม็ดพลาสติกในช่วงที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงค่อนข้างมากไว้แล้วล่วงหน้า

สตอรี่เด่นเป้า12.50บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท โดยผู้บริหาร EPG มั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้นงวดบัญชีปี 2564 จะอยู่ในระดับ 30% เพราะมองยอดขายธุรกิจฉนวนยางจะฟื้นในงวดบัญชีไตรมาส 4/2564 ผลจากแรงหนุนสหรัฐ, ญี่ปุ่น, และจีน ส่วนไทยจะฟื้นตัวในงวดบัญชีปี 2565 (เม.ย.64-มี.ค.65)

และคาดว่าอัตราผลิตที่สูงขึ้นจะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นจากทั้งสามธุรกิจ โดยอัตราการผลิตของ EPG ในตอนนี้อยู่ที่ 60-65% ของทั้งหมด ดังนั้นยังมีอัพไซด์อัตรากำไรขั้นต้น EPG ขยายสายการผลิตฉนวนยางสายที่ 5 สู่ 3หมื่นตัน ในไทยปีที่แล้ว โรงผลิตฉนวนยางในสหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัว สู่ 8พันตัน โดยจะเสร็จสิ้นในต้นปี 2564 เข้ามาเสริมด้วย

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1