บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 กำไรสุทธิ 1,486 ล้านบาท (+24%YoY, +11%QoQ)โดยเป็นรายได้จากการขาย 23,596 ล้านบาท (+2%YoY, +1%QoQ) โดยมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร 20,334 ล้านบาท (+6%YoY, +1%QoQ)ซึ่งโดยหลักปรับตัวขึ้นจากปริมาณความต้องการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องในสินค้าประเภทอาหารทั้งในกลุ่มอาเซียน และส่งออกไปต่างประเทศ และธุรกิจเยื่อและกระดาษ 3,262 ล้านบาท (-15%YoY, +3%QoQ)สาเหตุหลักมาจากปริมาณความต้องการใช้เยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียนลดลงอย่างมากจากมาตรการควบคุมโรคระบาดโดยการปิดสถานศึกษาและนโยบายรณรงค์ให้ทำงานที่บ้าน ขณะที่ต้นทุนขายอยู่ที่ 19,078 ล้าบาท (+1%YoY, +2%QoQ) ด้านค่าใช้จ่าย 2,268 (-7%YoY, -17%QoQ)รวมรายได้ทั้งปี 2563 อยู่ที่ 92,786 ล้านบาท (+4%YoY) กำไรสุทธิ 6,457 ล้านบาท (+23%YoY)

ทั้งนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่าน SCGP ได้ขยายการลงทุนในเวียดนามด้วยการควบรวมกิจการ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company ผู้ผลิตบรรจะภัณฑ์ชั้นนำ โดยเข้าถือหุ้น 94.11% โดยมีกำลังการผลิตกระดาษลูกฟูกและกล่อง ลามิเนท 1 แสนตันต่อปี มีรายได้ราว 2.2 พันล้านบาท และล่าสุดได้ลงนามร่วมทุนใน Duy Tan Plastics Manufacturing Corporation ผู้นำด้านบรรจุภัรฑ์พลาสติกคงรูปในเวียดนามรายได้ราว 6.1 พันล้านบาทกำลังการผลิต 1.16 แสนตันต่อปี โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้นที่ 70% คาดจะดำเนินการเสร็จสิ้นกลางปี 2564 ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป้นไปตามการของบริษัทในการเพิ่มควมหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ขยายตลาด และนำเสนอโซลูชันด้านบรรภัณฑ์ที่ครบวงจรแก่ลูกค้า รวมถึงเพิ่มประสิทธิการผลิตโดยรวมมากขึ้นจากการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกิจการ และ Economy of Scale

แนะนำ “เคาะ” ครับทางด้านปัจจัยเทคนิค แนวโน้มการแกว่งตัวแท่งเทียนเป็นการแกว่งตัวขึ้นตามกันกับSMA10วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ระยะสั้นแท่งเทียนสีขาวยาวผ่านยืนแนวต้านจุดสูงรอบก่อนหน้า 49/49.75 ขึ้นมา และมีVolumeเพิ่มขึ้นสนับสนุนเป็นสัญญาณซื้อแท่งเทียน ปรับยืนมั่นคงมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง(สร้างจุดสูงใหม่กว่า)

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน / แนวต้าน 50.50/52.75 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 49/48 ไม่ควรต่ำกว่า