> SET > NER

11 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 12:20 น.

NER โบรกเคาะเป้าใหม่ 6.20 บ. คาดหวังเงินปันผล 5%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุถึง บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ว่า คากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2563 เท่ากับ 428 ล้านบาท (สูงกว่าที่คาดไว้เดิมถึง 18%) ทำนิวไฮ รายไตรมาส เพิ่มขึ้นถึง 181.2% จากไตรมาสก่อน และ 245.1% จากปีก่อน จากแนวโน้มการบันทึกกำไรจาก Fx เข้ามา 50 ล้านบาท ทั้งนี้หากไม่รวมรายการดังกล่าว คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 4/2563 เท่ากับ 378 ล้านบาท (สูงกว่าที่คาดไว้เดิมถึง 21%) ทำระดับสูงสุดเป้นประวัติการณ์เช่นกัน เพิ่มขึ้นถึง 88.3% จากไตรมาสก่อน และ 285.5% จากปีก่อน มีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มรายได้รวมงวดไตรมาส 4/2563 เพิ่มขึ้นถึง 44.5% จากไตรมาสก่อน และ 73.7% จากปีก่อน เนื่องจากเป้นช่วงไฮซีซันของธุรกิจและการเดินเครื่องโรงงานแปรรูปยางแท่งแห่ใหม่เต๋มที่ หนุนแนวโน้มปริมาณขายางพารางวดไตรมาส 4/2563 เพิ่มขึ้นถึง 12.9% จากไตรมาสก่อน และ 48.4% จากปีก่อนมาที่ 1.2 แสนตัน


นอกจากนี้ยังคาดราคาขายยางพาราเฉลี่ยงวดไตรมาส 4/2563 เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อน และ 17.1% จากปีก่อนมาที่ 58.2 บาทต่อกก. สอดคล้องกับทิศทางราคายางพาราในตลาดโลก ซึ่งก็ช่วยหนุนให้แนวโน้ม gross margin งวดไตรมาส 4/2563 ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 9.8% จาก 9.3% ในงวดไตรมาส 3/2563 และคาดการณ์สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/Sales งวดไตรมาส4/2563 ปรับลดลงมาที่ 2.5% จาก 3.2% ในงวดไตรมาส 3/2563 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารส่วนใหญ่เป้นค่าใช้จ่ายคงที่ โดยรวมแล้วคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 เท่ากับ 865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.6% จากปีก่อน สูงกว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ 8% ขณะที่คาดการณ์กำไรปกติปี 2563 เท่ากับ 948 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.6% จากปีก่อน สูงกว่าประมาณการ 7%


ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ขึ้น 8.5% และ 9.1% จากเดิม ตามลำดับ สะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐานราคาขายยางพาราปี 2563-2564 ขึ้นเป้น 47.03 บาทต่อกก. และ 54.75 บาทต่อกก. ตามลำดับ ทั้งนี้ ภายหลังปรับเพิ่มประมาณการคาดกำไรสุทธิปี 2563-2564 จะเพิ่มขึ้น 60.9% จากปีก่อน และ 21.2% จากปีก่อน จากแนวโน้มปริมาณขายเพิ่มขึ้น 24.9% จากปีก่อน และ 14.35 จากปีก่อน จากการขยายโรงงานแห่งที่ 2 และการประหยัดต่อขนาด หนุนแนวโน้มสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ปี 2563-2564 ลดลงมาที่ 3.3% และ 3.0% ตามลำดับ


ขณะที่คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2563 จะอ่อนตัวลงจากงวดไตรมาส 4/2563 (แต่จะเพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 1/2563) เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน ของธุรกิจ กดดันปริมาณขายงวดไตรมาส 1/2564 ลดลง 22.5% (แต่เพิ่มขึ้น 45.25 จากปีก่อนมาที่ 9.3 หมื่นตัน)


ปรับเพิ่ม Fair value ปี 2564 ใหม่ที่ 6.20 บาท (เดิม 4.40บาท) อิง PER 10 เท่า (เดิม 7 เท่า) สูงกว่าค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 2 ปี (ตั้งแต่เข้า SET) ราว 1SD เนื่องจากให้น้ำหนักประสิทธิภาพการทำกำไรที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ เนื่องจาก NER มีนโยบายการซื้อวัตถุดิบยางพารามาเก็บไว้ก่อนแล้วจึงขายให้ลูกค้า และกำหนดราคาขายตามต้นทุนของผลิตภัณฑ์บวกด้วยอัตรากำไรส่วนเพิ่ม ทำให้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับราคายางพาราที่ผันผวนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง นอกจกานี้ยังได้ผลบวกจากการเปิดเมือง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ NER หนุนความต้องการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น


ราคาหุ้น NER ปัจจุบันมี Valuation ที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ค่า PER ปี 2564 เพียง 8 เท่า นอกจกากนี้ยังสามารถคาดหวัง Div Yields ได้ถึง 5%


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X