> SET > NER

03 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 08:30 น.

NERเก็งQ4กำไรโต229% ยอดขายเด้ง-เป้า5.70บ.

ทันหุ้น – NER โบรกส่องงบไตรมาส 4/2563 โชว์ผลงานทุบสถิติสูงสุดใหม่กำไรปกติพุ่ง 336 ล้านบาท โต 229% รับอานิสงส์ราคายาง-ปริมาณขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่มาร์จิ้นขยับมาอยู่ที่ 9.7% พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 จากการขยายกำลังการผลิต เคาะเป้าหมายใหม่ 5.70 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ระบุถึง บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ว่าประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/2563 ที่ 386 ล้านบาท (+211% จากปีก่อน, +153% จากไตรมาสก่อน) และกำไรปกติอยู่ที่ 336 ล้านบาท (+229% จากปีก่อน, +106%จากไตรมาสก่อน)


สาเหตุหลักมาจาก 1.ราคาขายยางแท่ง (STR) เฉลี่ยช่วงไตรมาส 4/2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 154 เซนต์ต่อกิโลกรัม (+13% จากปีก่อน, +21%จากไตรมาสก่อน) 2.ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 125,000 ตัน เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อนที่ 80,884 ตัน และเพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 3/2563 ที่ 106,292 ตัน จากการขยายกำลังการผลิตอีก 170,000 ตันต่อปี ในช่วงไตรมาส 3/2563และ 3.ประมาณการ Gross Profit Margin (GPM) ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2562 ที่ 7.7% และไตรมาส 3/2563 ที่ 9.3%


*เพิ่มประมาณการกำไร


ทั้งนี้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 822 ล้านบาท (+52% จากปีก่อน) และกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 1,151 ล้านบาท (+40% จากปีก่อน) สาเหตุหลักมาจาก 1.ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าปริมาณการขายปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 410,000 ตัน จากปี 2563 ที่ 358,615 ตัน สอดคล้องกำลังการผลิตที่ขยายตัวเป็น 460,000 ตันต่อปี (เพิ่มขึ้น 170,000 ตันต่อปี ในช่วงไตรมาส 3/2563),


2.ราคายางแท่ง (STR) ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและทรงตัวในระดับสูงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จากการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท (ประมาณ 40% ของรายได้รวม) และความต้องการถุงมือยางยังคงอยู่ในระดับสูงและยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้นหลังจากโรคระบาด Covid-19 และ 3.คาด GPM จะอยู่ที่ 10% ลดลงเล็กน้อยจากปี 2563 ที่ 10.7% เนื่องจากฐาน GPM ที่สูงในครึ่งปีแรก 2563 เฉลี่ยที่ 13% ซึ่งเป็นช่วงที่ราคายางปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง


*ราคาเป้าใหม่ 5.70 บาท


ด้านราคาหุ้น Underperform SET -29% ใน 3 เดือน จากกำไรไตรมาส 3/2563 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามราคาหุ้นเริ่มที่จะกลับมาและ Outperform SET +8% ใน 1 เดือน โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ระยะสั้นราคาหุ้นคาดว่าจะ Outperform SET ต่อจากกำไรไตรมาส 4/2563 ที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่และราคายางที่จะทรงตัวระดับสูง ทำให้กำไรสุทธิปี 2563-2564 จะเติบโตดีที่ 52% และ 40% จากปีก่อน และ Valuation ที่ต่ำ เทียบเท่า PER เพียง 6.7 เท่า ของปี 2564

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X