โบรกฯ คาด SET แกว่งกรอบ 1,525-1,550 จุด ชู NER-SAPPE เด่น

ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1535.98 จุด (-11.33 จุด) ภาพระยะสั้นเป็นการย่อตัวในแนวโน้มของขาขึ้น โดยตราบใดที่ยังสามารถประคองตัวเหนือระดับแนวรับ 1520 จุด ถือว่ารักษาโมเมนตัมเชิงบวกในรอบสั้นเอาไว้ได้ อย่างไรก็ดีทิศทางหลักยังมองเป็นขาขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ถือรันเทรน จนกว่าดัชนีจะลงมาต่ำกว่าระดับ 1520 จุด

ไม่มีหุ้น  เก็งกำไรเมื่อดัชนีอ่อนตัว วางแนวรับ 1520 / 1500 จุด 

ประเมินแนวรับ 1530/1520 แนวต้าน 1560/1567

**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสเดินหน้าบวกอ่อนๆ รัฐเตรียมคลายมาตรการ Covid-19 หากติดเชื้อน้อยลง Biden แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ $1.9 ล้านล้านเหรียญ และราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น  กลยุทธ์ ข่าวดีทยอยเข้ามาในตลาด แต่นักลงทุนยังรีรอนอกตลาด แนะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เน้นหุ้นกลาง-เล็กไปก่อน

ตลาดหุ้นไทย ตอบรับข่าวดีมาระยะหนึ่งแล้วทำให้เริ่มเข้าสู่ mode ของการปรับฐานซึ่งเป็นเรื่องปกติ  ข่าวบวกของตลาดโลก วันนี้ จะเป็นว่าที่ประธานาธิบดี Biden เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ $1.9 ล้านล้านเหรียญ ทั้งนี้ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ยกฐานขึ้น (ปิดวานนี้ ที่ 1.12%) จากแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯจะสูงขึ้น หลัง  Biden ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวที่เพิ่มกว่า 1 เท่าตัว จากมาตรการ $9 แสนล้านเหรียญ ที่อนุมัติไปเมื่อปลายเดือน ธ.ค.  กลบข่าวประธาน Fed นาย Jerome Powell ที่จะออกมาแสดงความเห็นว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือการลดวงเงิน QE จะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ก็ตาม 

ประเมิน แม้จะเป็นข่าวดี แต่ตลาดรับรู้มาระดับหนึ่ง ผลที่จะเกิดจากนี้ น่าจะลบต่อค่าเงินดอลล่าร์ แต่ดีต่อราคาสินค้า Commodity โดยเฉพาะน้ำมัน รวมถึง Fund Flow ที่จะไหลเข้าตลาดหุ้น EM (รวมไทย)  หากวงเงินนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาฯ ซึ่งน่าจะง่ายเพราะพรรค Democrat มีเสียงในสภาสูงเพิ่มขึ้นแล้ว

สถานการณ์ Covid-19 ต่างประเทศยังอยู่ในช่วงการทดลองใช้วัคซีน ที่ผลยังไม่น่าประทับใจนัก ด้านของไทย เราดูเป็นบวกเล็กน้อย หลัง ศบค. จะฉีดยาแรง ชุดสุดท้ายจนถึง 17 ม.ค. หากผลออกมาดี จะผ่อนคลายมาตรการควบคุม ที่จะสิ้นสุด 31 ม.ค.นี้ ข่าวนี้ลดแรงกดดันที่มีต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวลง Event สำคัญๆ ของวันนี้ ธปท.จะรายงานผลกระทบด้านเศรษฐกิจจาก Covid-19 รอบใหม่ และตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (เดือนก่อน -1.1% YoY)

#Strategy

มองตลาดมีความเสี่ยงขาลงที่จำกัด (ดัชนีฯไม่น่าต่ำกว่า 1500 จุด)  แม้ดัชนีฯ วานนี้จะลดลงถึง 11 จุด แต่หลักๆ มาจากการลดลงของราคาหุ้น DELTA-BGRIM-GULF ที่มีผลต่อดัชนีฯถึง -9 จุด เลยทีเดียว  กลยุทธ์ลงทุน เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ยังรีรอนอกตลาด อาจเพราะยังไม่มั่นใจ ช่วงนี้ จึงแนะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เน้นหุ้นกลาง-เล็กไปก่อน พอร์ตหุ้นวันนี้นำหุ้น NER, HTC* เข้ามาใหม่ และนำ COM7, VGI และ ALT* ออก หุ้นในพอร์ตจะประกอบไปด้วย NER(10%), HTC*(10%), ICHI*(10%), TMB(10%), LEO(10%), SCGP*(20%)

#Strategy top picks

NER: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.80 บาท) “โตตามตลาดยานยนต์ที่ฟื้นตัว คาดรายได้ปี 21 โตเด่น”

•ตลาดยานยนต์ทั่วโลกฟื้นตัว ดันอุปสงค์การใช้ยางให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

•ผู้บริหารประเมินผลกระทบกรณีสหรัฐขึ้นภาษีรถยนต์จีนกระทบต่อ NER ไม่มาก โดยยังมองรายได้ปี 21 โตประมาณ 20-30%YoY

•KTBST ประเมินกำไรสุทธิใน ปี 2020-2021 ที่ 766 ลบ. และ 1037 ลบ. เติบโต +42%YoY, +23%YoY ตามลำดับ

# Technical: TKN, MICRO

**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index อยู่คงอยู่ในช่วงแกว่งตัวสร้างฐาน โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ 1,525-1,550 จุด ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาดที่ 9.65 แสนตำแหน่ง (ตลาดคาด 7.95 แสนตำแหน่ง) อย่างไรก็ตามประเมินตลาดให้น้ำหนักการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จากโจ ไบเดน วงเงิน US$1.9 ล้านล้าน ในชื่อ “American Rescue Plan” ซึ่งจะช่วยเยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 และหนุนเศรษฐกิจในฟื้นตัวในอนาคต 

ส่วนปัจจัยในประเทศ สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 โดยรวมอยู่ในทางทรงตัวซึ่งไม่ได้เป็นปัจจัยกดดันดัชนีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม SET Index ที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงและเร็ว 28% จากสิ้นเดือน ต.ค. 20 และ 6% YTD และเหลือ Upside เพียง 5% เทียบกับ SET Target ปีนี้ที่ 1,600 จุด ทำให้ระยะสั้นอาจมีการพักฐานบ้าง อย่างไรก็ตามจากสภาพคล่องที่ยังล้นตลาดและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำไปอีก 1-1.5 ปีเป็นอย่างน้อย ยังเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้น รวมถึงกระแสเงินทุนที่คาดว่ายังไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ SET Index เกิดการพักฐานแรงคือสัญญาณจาก FED ทั้งการยุติ QE การลดขนาดงบดุล และการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องหายไป

กลยุทธ์ : ลงทุนในกลุ่มที่ยัง Laggard Play และหุ้นขนาดกลาง-เล็ก//ถือรอทำกำไรบริเวณ 1,600+-

หุ้นเด่นเดือนม.ค. : DOHOME, KBANK, MAKRO, RBF, SPALI

หุ้นเด่นวันนี้:SAPPE

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27 บาท

• กลุ่มเครื่องดื่มเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดอีกครั้ง แนวโน้มกำไร 4Q20 คาด -27% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาลและบาทแข็ง แต่ยังโตแรง +113% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน ทำให้ทั้งปี 2020 คาด +3% Y-Y

• คาดกำไรปี 2021 จะกลับมาโตเร่งตัวเป็น +14% Y-Y จากทั้งการบริโภคในประเทศ การส่งออกที่ฟื้นตัวและการออกสินค้าใหม่ รวมถึงได้ประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตที่ลดลงเต็มปี ราคาหุ้นยังซื้อขาย PER ต่ำเพียง 14 เท่าเทียบกับกลุ่มฯที่ราว 25-30 เท่า

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคอีก US$422 ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้มากสุด US$664 ล้าน แต่พลิกมาไหลออกจากไต้หวัน US$316 ล้าน ส่วนตลาด TIP มีเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศโดยของไทยอยู่ที่ US$28 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนโดยรวมคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าจากสภาพคล่องที่ล้นตลาด อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องอีก 1-1.5 ปีเป็นอย่างน้อย ส่วนเศรษฐกิจคาดทยอยฟื้นตัวหลังหลายประเทศทยอยฉีดวัคซีน COVID-19

ประเด็นสำคัญวันนี้

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1