ทันหุ้น-บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA โดยแนะนำซื้อ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2564 เท่ากับ 55.00 บาท ต่อหุ้น เห็นสมควรที่จะมี premium เพื่อสะท้อนกับอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นขาขึ้นรอบใหม่ และให้ส่วนลด 10% เมื่อเทียบกับผู้เล่นคล้ายกันในภูมิภาค ASEAN ที่ปัจจุบันเทรดบน P/E เฉลี่ย 25 เท่า จากขนาดที่เล็กกว่า โดยมีความเสี่ยงคือ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (ทุก 1 บาทที่แข็งค่าจะกระทบกำไร/ราคาเป้าหมาย -12%), อุปสงค์ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
ฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ มองว่า HANA เป็นตัวแทนของผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ ในไทยระดับ Top 50 ของโลก ที่สินค้าส่วนใหญ่อิงกับตลาดผู้บริโภค (Consumer) กำลังเข้าสู่รอบการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะเร็วกว่าและกระทบวงกว้างในหลายอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับ 4G ด้วยแรงกระตุ้นจากผู้ให้บริการในจีนเร่งขยายโครงข่ายและผลักดันสินค้า 5G เข้าสู่ตลาดโลก โดยเริ่มต้นในตลาดสมาร์ทโฟนที่เป็นสินค้าหลักของบริษัท สนับสนุนการเติบโตกำไรเฉลี่ย (CAGR) +13% ในปี 2564-65 หลังจากหดตัว 2 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ HANA จะได้ประโยชน์ในอนาคตที่การใช้งานที่เกิดขึ้นในหลายธุรกิจ ช่วยต่อยอดการเติบโตของบริษัทไปพร้อมกับตลาด Semiconductor ในระยะยาว
ทั้งนี้ HANA ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ทั้งผลิตภัณฑ์ PCBA และ IC ซึ่งมีสินค้าปลายน้ำอิงกับกลุ่ม Telecom (30%) และ Automotive Sensor (15%) บริษัทมีความได้เปรียบเทียบกับรายอื่น คือ คุณภาพและการส่งมอบสินค้าที่ลูกค้าให้การยอมรับมากกว่า 40 ปี และการบริหารต้นทุน (Cost competitive) จากโรงงานตั้งอยู่ใน 4 ประเทศทั้ง ไทย,จีน,สหรัฐ และ กัมพูชา ซึ่ง 95% อยู่ในทวีปเอเชียที่ใกล้ฐานการผลิตสำคัญของโลก แต่มีต้นทุนแรงงานเพียง 40% เมื่อเทียบกับการผลิตในประเทศจีน HANA จึงเป็นทางเลือกแก่ผู้ผลิตสินค้าที่กำลังกระจายความเสี่ยง (Diversification) บนห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญทั้งจากปัจจัยการเมือง (Trade War) และปัจจัยอื่นๆ เป็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต
ทั้งนี้มองว่าในปี 2563 HANA จะเป็นจุดต่ำสุดของกำไรในรอบ 7 ปีที่คาดไว้ 1,727 ล้านบาท ลดลง6% ทิศทางเดียวกับยอดขาย (USD) ลดลง 7% จากตามอุปสงค์ smartphone ทั่วโลกชะลอตัวลดลง 10% และกำลังการผลิตที่หยุดไป 2-3 เดือน จึงมีมุมมองบวกต่อการเติบโต HANA ในปี 2564 และ 2565 ที่คาดกำไรสุทธิ เติบโต 17 และ เติบโต 9% มาจากรายได้ที่ขยายตัว 15% และ 10% ตามยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกและคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 1/64
ราคาหุ้น HANA เช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 51.50 บาท บวก 4.50 บาท หรือ 9.57% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1,541.72 ล้านบาท
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม