ทันหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ระบุถึง บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ว่ามุมมองเป็นบวกจากการจัด group conference call กับ EPG เมื่อวันที่ 5 ม.ค.21 โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

1) แนวโน้มรายได้และ GPM งวด 3QFY21E (ต.ค.-ธ.ค.20) จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจ Aeroklas (ชิ้นส่วนรถยนต์) จะฟื้นตัวได้โดดเด่นมากสุดตามยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่ฟื้นตัว และ TJM มีโอกาสพลิกเป็นกำไรครั้งแรก จากการลดต้นทุน และยอดขายรถยนต์ที่ออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้นมาก เนื่องจากมีการซื้อรถยนต์เพื่อท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

2) ประเมินผลกระทบจากการระบาด COVID-19 ในปัจจุบันจะเป็นบวกต่อธุรกิจ EPP (บรรจุภัณฑ์) ที่มีการซื้ออาหารกลับบ้านมากขึ้น

3) ธุรกิจ Aeroflex (ฉนวนกันความร้อน/เย็น) ใน US จะดีขึ้นมากในปี FY22E จากปี FY21E ที่คาดว่ารายได้จะลดลง -10% จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ ขณะที่หากมีการขึ้นภาษีและขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐจะกระทบจำกัด เนื่องจากโรงงานใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และปัจจุบันจ่ายค่าแรงใกล้เคียงกับขั้นต่ำที่มีแผนจะปรับขึ้นใหม่แล้ว

4) จะได้รับเงินช่วยเหลือจากผลกระทบ COVID-19 ในช่วง 2HFY21E อีกราว 50 ล้านบาท แบ่งเป็นจากรัฐบาลออสเตรเลีย 10 ล้านบาท และรัฐบาลสหรัฐอีก 40 ล้านบาท ซึ่งเรายังไม่ได้รวมในประมาณการ โดยในช่วง 1HFY21 ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลออสเตรเลียแล้วราว 50 ล้านบาท

ปรับกำไรสุทธิปี FY21E ขึ้นจากเดิม +7% เป็น 1 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งยังไม่รวมเงินช่วยเหลือจากผลกระทบ COVID-19 ราว 50 ล้านบาท โดยเรามีการปรับคาดการณ์รายได้ปี FY21E ดีขึ้นเป็น -7.6% YoY จากเดิม -10% YoY และปรับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมเป็น 95 ล้านบาท จากเดิม 40 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักเป็นผลจากธุรกิจยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 1HFY21 จะคิดเป็น 38% จากที่เราคาดทั้งปี โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิ 2HFY21E จะกลับมาเติบโตโดดเด่น +36% YoY และ +63% HoH ส่วนงวด 3QFY21E เราประเมินจะมีกำไรสุทธิราว 310-330 ล้านบาท ดีขึ้นจาก 3QFY20 ที่มีกำไร 214 ล้านบาท และ 2QFY21 ที่มีกำไร 308 ล้านบาท

มีการปรับกำไรปี FY22E ขึ้นจากเดิม +12% เป็น 1.2 พันล้านบาท (+19% YoY) จากการฟื้นตัวของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) Aeroklas คาดว่าจะเติบโตได้โดดเด่นสุดจากยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่จะกลับมาเติบโต 10%-15% และธุรกิจ TJM ที่ออสเตรเลียจะเริ่มมีกำไรได้ต่อเนื่อง จากแผนการขยายตลาดและการลดต้นทุนที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น, 2) Aeroflex จะได้ผลบวกจากแนวโน้มภาคการก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศจะดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐและญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มีการสั่งซื้อสินค้าระดับพรีเมี่ยม ซึ่งมี GPM ค่อนข้างสูง, 3) EPP จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว และความนิยม food delivery รวมทั้งการซื้ออาหารไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น รวมถึง GPM จะดีขึ้นจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และ 4) ประเมินส่วนแบ่งกำไรบริษทัทร่วมจะเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านบาท (+68% YoY) ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่จะได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัว

ปรับราคาเป้าหมายเป็น 10.00 บาท อิง FY22E PER ที่ 23 เท่า (-0.5SD below 4-yr average PER) จากเดิมที่ 7.80 บาท อิง FY21E PER ที่ 23 เท่า (-0.5SD below 4-yr average PER) โดยเรามีการปรับกำไรสุทธิขึ้น ซึ่งมี key catalyst จากแนวโน้มกำไรจะดีขึ้นต่อเนื่องในงวด 2HFY21E และปี FY22E จากทั้ง 3 ธุรกิจหลักที่จะปรับตัวดีขึ้นกว่าที่เคยคาด ทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะ Aeroklas ที่จะดีขึ้นมากจากฐานที่ต่ำ ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับ USD จะมีผลกระทบบ้าง โดย EPG มีรายได้เป็นเงินสกุล USD ราว 50% ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุน USD ที่ 50% ขณะที่จะได้ผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินออสเตรเลีย (AUD) ซึ่ง EPG มีสัดส่วนรายได้เป็น AUD คิดเป็น 20%-25%

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1