ทันหุ้น - JKN ชี้โควิด- 19 ไม่กระทบธุรกิจ พร้อมลั่น Q4/2563 ผลงานแจ่ม อานิสงส์ต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ลด แถมวาดฝันปี 2564 รายได้โตก้าวกระโดดแตะ 3 พันล้านบาท รุกขยายธุรกิจรอบด้าน หวังเติมเต็ม-ต่อยอดอนาคต ด้านโบรกเกอร์ ชูสตอรี่เด่น แนะสอย อนาคตไกล 13.20 บาท

นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) ที่เกิดขึ้นนั้นระยะสั้นมองว่ายังไม่มีกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด ขณะที่แนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2563 ทาง JKN คาดน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนทางด้านคอนเทนต์และอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากรายได้จากขายที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ปี 64 เป้าหมายรายได้3พันล.

อย่างไรก็ดี ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ระดับราว 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่คาดไว้ราว 1.8-1.9 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ชเข้ามาเพิ่มเติม อาทิ สตูดิโอ, คลีนิคศัลยกรรมความงามครบวงจร, ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามเพิ่มอีก 40-50 SKU ฯลฯ ในปีหน้าเข้ามาเสริม นอกเหนือจากแนวโน้มธุรกิจคอนเทนส์คาดปีหน้ารายได้จะขยายตัวเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาทด้วย

สำหรับปีหน้าทาง JKN ได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนซื้อคอนเมนต์ใหม่ๆ อยู่ที่ราว 800 ล้านบาท, ใช้ผลิตรายการวาไรตี้เองประมาณ 6 รายการ, ผลิตซีรีย์สยามรามเกียรติ์ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในส่วนสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคและอื่นๆ หวังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจให้เป็นตามที่วางไว้

อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้อนุมัติแผนจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และจัดตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน เพื่อขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ-ความงาม ธุรกิจเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการด้านความงามและไลฟ์สไตล์ โดยคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ภายหลังจากที่บริษัทเข้าทำรายการตามที่ได้รับการอนุมัติจากบอร์ดเสร็จสิ้นแล้ว

ดังนั้นในปี 2564 ธุรกิจของ JKN จะแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ (1) กลุ่มธุรกิจ Content ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมที่จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ทั้งนำเข้าและส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ และรายการข่าวการเงินเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ และ (2) กลุ่มธุรกิจ Commerce ประกอบด้วย สินค้าเพื่อสุขภาพ-ความงาม สินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มและไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

สตอรี่เด่นเป้า13.2บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น JKN ให้ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท หลังจากปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอการขายคอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศกลุ่มใหม่ ได้แก่ประเทศอียิปต์ และมี อีก 5-6ประเทศที่รอเซ็นสัญญา ได้แก่ กลุ่มประเทศแถบลาตินอเมริกา บรูไน ไต้หวัน ศรีลังกา บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และภูฏาน ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น จากต้นทุนค่าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่ลดลงอย่างมีนัย

โดยในปี 2564 ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดเติบโตของ JKN นั้นจะจากการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ประกอบกับการรุกธุรกิจใหม่การขายสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งตั้งเป้ารายได้แต่ละธุรกิจราว 200 ล้านบาท และ อัตรากำไรสุทธิราว 20% บริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเป็น 30% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปี 2564 ยังเติบโตต่อเนื่อง 16% จากปี 2563 โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) แผนในการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น 2) แผนในการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ในการผลิต จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงามและสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยเข้าซื้อหุ้น ในบริษัทเจเคเอ็น โกลบอล ลิฟวิ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ยังเป็นการกระจายรายได้ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ จากเดิมที่ผูกติดกับธุรกิจขายลิขสิทธ์คอนเทรส์อย่างเดียว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจใหม่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ส่วนปี 2563 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรอยู่ที่ 329 ล้านบาท