ทันหุ้น – "กลุ่มโรงแรม" คึกคัก! รับเข้าช่วงไฮซีซันท่องเที่ยวในไทย หนุนโค้งท้ายสดใส โบรกชู CENTEL-MINT เด่นน่าสะสม เคาะเป้าหมาย 29.00 บาท, 28.00 บาท ตามลำดับ ด้านผู้บริหาร "ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์" แย้มไตรมาส 4/2563 ผลงานฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2563อานิสงส์เข้าฤดูกาลขายธุรกิจอาหาร-โรงแรม

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น "กลุ่มโรงแรม" เนื่องจากเป็นช่วงสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ในประเทศ จึงคาดน่าจะช่วยสนับสนุนภาพรวมของผู้ประกอบต่างๆ ในกลุ่มดังกล่าวช่วงไตรมาส 4/2563 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2563

พร้อมกันนี้ ประเด็นเกี่ยวกับกระแสข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์คาดหุ้นใน "กลุ่มโรงแรมจะรับแรงหนุนจากความหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการฟื้นตัวในอนาคต จึงมองเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในระยะยาว

สำหรับหุ้นในกลุ่มดังกล่าวหลักๆ ได้แก่ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT

*CENTEL-MINT เด่น

โดยทางนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CENTEL ให้ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นหุ้นที่ประโยชน์จากพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีน COVID-19 โดยตรง และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง (D/E Ratio 0.9 เท่า) เพียงพอสำหรับรอการผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2565 รวมถึงโอกาสปิดดีล M&A ในอนาคต

ทั้งนี้ แม้ฝ่ายวิเคราะห์จะมีการปรับประมาณการกำไรปกติปี 2563 ลงเหลือ 1.99 พันล้านบาท และในปี 2564 เหลือ 471 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนค่าใช้จ่ายพิเศษจาก TFRS16 ซึ่งเกิดขึ้นในไตรมาส 3/2563 แต่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มในไตรมาส 4/2563 จะตัวขาดทุนลดลงจากทั้งฝั่งธุรกิจโรงแรมและอาหาร

*MINT ธุรกิจอาหารพลิกกำไร

ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นั้นให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น MINT โดยมีราคาเป้าหมายที่ 28.00 บาท แม้จะมีปัจจัยกดดันจากผลกระทบจากยุโรป Lockdown รอบ 2 แต่เชื่อคงมีผลกระทบต่อธุรกิจไม่มากนัก เนื่องจากปิดเมืองแค่ 1 เดือน (เทียบครั้งแรกที่ปิด 3 เดือน),

นอกจากนี้ ทาง MITN ยังได้มีการแก้ไข้ปัญหาเกี่ยวกับความกังวลเรื่องสถานะทางการเงินลดลงมาก เพราะ MINT มีโอกาสที่จะขายสินทรัพย์ได้ราว 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท (จากสินทรัพย์ที่พร้อมขายทั้งสิ้น 3.5หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรและสภาพคล่องปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งทาง MINT ค่าใช้จ่ายลดลงต่อเนื่อง ช่วยลด cash burn ต่อไตรมาสได้เกือบเท่าตัว,

ขณะเดียวกันทางฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจอาหารพลิกกลับมามีกำไรแล้ว จากการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) ที่พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรก และคาดว่าจะยังคงดีต่อ ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าผลประกอบการของ MINT ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2563 และยังมีโอกาสที่จะขาย asset เพิ่มได้ในอนาคต นอกจากนี้เราคาดหวังว่าวัคซีนจะใช้ได้เร็วกว่าคาด ซึ่ง MINT จะได้ประโยชน์เรื่องดังกล่าวด้วย

*CENTEL ผลงานฟื้นตัว

ด้านดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์. รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร. บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบื้องต้นบริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2563 มีโอกาสน่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/2563 เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซันของธุรกิจอาหารและโรงแรม ซึ่งน่าจะช่วยทำให้ยอดขายและอัตราการเข้าพักขยายตัว อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของทาง CENTEL พบว่า ตัวเลขรายได้ส่วนใหญ่มากกว่า 50% นั้นมาจากธุรกิจอาหาร และที่เหลือมาจากการให้บริการในส่วนของธุรกิจโรงแรม