> SET >

16 ธันวาคม 2020 เวลา 09:23 น.

โบรกฯ คาด SET รีบาวด์-สลับกลุ่มเล่นตามตลาด

ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index ปิดที่ระดับ 1477.21 จุด (+1.08 จุด) เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังเมื่อวานนี้ดัชนีสามารถขึ้นปิดในแดนบวกได้ โดยประเมินมีโอกาสได้เห็นการปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางของแนวโน้มหลักที่เป็นเชิงบวก วางแนวต้านรอทดสอบที่ 1492/1500 จุด


กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ถือรันเทรน จนกว่าดัชนีจะอ่อนตัวหลุด 1460 จุด

ไม่มีหุ้น  เก็งกำไรตามโมเมนตัม สามารถรอขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1492/1500 จุด


ประเมินแนวรับ 1464/1455  แนวต้าน 1492/1500


**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังผันผวนจากการขายทำกำไรและสลับกลุ่มเล่น  วันนี้ ตลาดยังไม่มีข่าวบวกใหม่ๆ  ด้านนักลงทุนต่างประเทศพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยต่อ และจับตาค่าเงินบาทอาจหลุด 30 บาท กลยุทธ์วันนี้  ตลาดหุ้นยังพอไปได้ แต่ควรสลับกลุ่ม(ตัว)เล่นตามตลาด


สถานการณ์ Covid-19 การติดเชื้อในต่างประเทศกลับมาอีกครั้ง ในยุโรปอาจกระทบราคาหุ้น MINT  ของไทยเองกระทบกลุ่มที่อิงท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีนัยยะสำคัญ เราคาดว่าเมื่อใดที่ผลกาใช้วัคซีนออกมาแล้วมี side effect น้อย ตลาดหุ้นจะกลับมาบวกแรงได้อีกครั้งหนึ่ง


การเจรจางบเยียวยาผลกระทบ Covid-19 ของสหรัฐฯ มีความคืบหน้าส่งผลบวกต่อตลาดและราคาทองคำ  รวมถึงจะกดค่าดอลล่าร์ให้อ่อนลงในอนาคต แต่ทั้งนี้ ค่าเงินอาจได้รับผลจากการประชุม FOMC ในคืนนี้ (17) ถ้ามีการเพิ่ม QE หรือผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีก 


ตัวแปรในประเทศ วันนี้ น่าจะไปอยู่ที่การซื้อของนักลงทุนต่างประเทศว่าจะซื้อหุ้นไทยต่อหรือไม่ ขณะที่ค่าเงินบาท หากแข็งค่าทะลุ 30 บาท/ดอลล่าร์ ลงไป อาจทำให้ต่างชาติกังวลมาตรการของทางการที่จะออกมาควบคุมการไหลเข้าของเงินทุน แต่เรามองว่า ธปท.ไม่น่าจะทำอะไรได้มากนัก เนื่องจากเงินบาทแข็งเพราะดอลล่าร์อ่อนมากกว่าที่จะเป็นการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงิน event สำคัญๆ KERRY จะมีการนำเสนอข้อมูล IPO และประชุม FOMC


#Strategy

ตลาดยังเป็นช่วงของการปรับฐาน จึงน่าจะมีความผันผวนเช่นวันก่อน แต่เรามองทิศทางดีขึ้นจากวันก่อน ยังมีโอกาสเห็น 1500 จุด ในเร็วๆนี้อีกครั้ง กลยุทธ์ลงทุน คาดจะมีการสลับกลุ่มเล่น โดยหุ้นกลุ่มที่นักลงทุนควรให้ความสนใจเพราะน่าจะเป็นกลุ่มนำ คือ ปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่อาศัย ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ วันนี้ เรานำ BJC ออก เพิ่มหุ้น BEAUTY* และ IRPC* เข้ามาแทน ดังนั้นหุ้นในพอร์ตจะประกอบด้วย BEAUTY*(10%), IRPC*(10%), WHA(20%), M*(10%), ANAN(20%), TASCO*(10%), WICE*(10%)


#Strategy top picks

IRPC*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.00 บาท) “สเปรดปิโตรสูงสุดในรอบหลายปี”

•spread ของหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักอย่าง HDPE-DUBAI ทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018

•คาดผลการดำเนินงานในปีหน้าฟื้นตัวโดดเด่นล้อไปกับเศรษฐกิจโลก

•Bloomberg Consensus Survey กำไรสุทธิเฉลี่ยใน ปี 2021-2022 ที่ 2.6 พัน ลบ. และ 4 พัน ลบ. เติบโตต่อเนื่อง พลิกจากขาดทุนในปี 2020 และเติบโต +53.8%YoY ในปี 2022 ตามลำดับ 


Technical :  BGRIM, IRPC


**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index แกว่งตัวในแดนบวกในกรอบ 1,470-1,495 จุด จากบรรยากาศการลงทุนเป็นบวกมากขึ้นโดยตลาดคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯรอบใหม่ที่ล่าสุดแยกวงเงิน US$ 9.08 แสนล้านออกเป็น 2 ฉบับ US$7.48 แสนล้านและ US$1.6 แสนล้าน ซึ่งสำหรับก้อนใหญ่มีความเห็นพ้องระหว่างทั้ง 2 พรรค ทำให้คาดว่าจะสามารถผ่านสภาฯได้ภายในปีนี้ 


ส่วน FDA กล่าวว่าวัคซีน COVID-19 ของ Moderna มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลดี อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้คือการประชุม FED ซึ่งคาดว่าจะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย แต่ต้องจับตาประมาณการเศรษฐกิจใหม่หลังมีวัคซีน รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรที่คาดว่าจะซื้อระยะยาวมากขึ้น เราประเมินกลุ่ม Cyclical และ Value Play จะยังหนุนตลาดหลังพักตัวระยะสั้น 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ Laggard ได้แก่ ค้าปลีก สื่อสารฯ การแพทย์ อาหาร ยังน่าสนใจจากโอกาสเกิด Sector Rotation


กลยุทธ์ : ถือหุ้น Value และ Cyclical เกาะกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า//เก็งกำไรหุ้น Laggard

หุ้นเด่นเดือนธ.ค. :HANA, JWD, MTC, SYNEX, TVO


หุ้นเด่นวันนี้:M

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 63 บาท

• คาดกำไร 4Q20 ฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเป็น High Season และได้ประโยชน์จากช้อปดีมีคืนและวันหยุดยาวที่เพิ่มขึ้น

• เราคาดกำไรปี 2020 -59% Y-Y ก่อนฟื้นตัวแรง +117% Y-Y ในปี 2021 กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อน COVID-19 และมี Upside เพิ่มเติมจากโอกาส M&A จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้ และมีเงินสดในมือถึง 6,800 ลบ.


Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคอีก US$926 ล้าน โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่ยังคงออกจากเกาหลีใต้และใต้หวัน US$387 ล้านและ US$598 ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลเข้าตลาด TIP นำโดยฟิลิปปินส์และไทย US$60 ล้านและ US$48 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะพลิกมาไหลเข้าระยะสั้นจากความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลลาร์ให้อ่อนค่า


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X