> อาหารสมอง >

23 พฤศจิกายน 2020 เวลา 18:06 น.

ส่งออกไทยฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง ต.ค.หดตัวเพิ่มที่ 6.71% YoY ,ทั้งปี 63 คาดการณ์หดตัวที่ 7%

ทันหุ้น - ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือนต.ค. ตัวเลขส่งออกไทยในเดือนต.ค. 2563 หดตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 6.71  YoY อยู่ที่ 19,376.68 ล้านเหรียญฯ  อย่างไรก็ดี เมื่อหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธฯ การส่งออกจะหดตัวที่ร้อยละ 4.89 YoY ซึ่งหดตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.ย. ในภาพรวมการส่งออก 10 เดือนแรกหดตัวร้อยละ 7.26 YoY โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 


การส่งออกสินค้าเกษตรพลิกกลับมาหดตัวที่ร้อยละ 8.8  YoY หลังขยายตัวที่ร้อยละ 3.3  YoY ในเดือนต.ค. โดยการส่งออกสินค้าเกษตรชะลอตัวลงเกือบทุกตัว โดยเฉพาะน้ำตาลทรายที่ได้ผลกระทบจากภาวะภัยแล้งรุนแรง และปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะจากผู้ประกอบการในบราซิล นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าเกษตรบางประเภท เช่น ข้าว และอาหารทะเลกระป๋อง เริ่มลดลงหลังมีการสต็อกไว้เพียงพอแล้ว 


แม้ว่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะปรับดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศ รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาด เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมหดตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 4.7  YoY จากการ หดตัวต่อเนื่องของรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รวมถึงน้ำมันดิบที่การขนส่งและกิจกรรมทางการผลิตชะลอตัวหลังเวียดนามและมาเลเซียได้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองหลวงและเมืองสำคัญ 


หากพิจารณารายตลาดส่งออกของไทย พบว่า การส่งออกไปจีนกลับมาหดตัวที่ร้อยละ 6.1 YoY จากที่ขยายตัวร้อยละ 6.9 YoY ในเดือนก.ย. สินค้าสำคัญที่หดตัวได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ การส่งออกไปประเทศใน CLMV หดตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดซ้ำของโควิด-19 ในบางพื้นที่ อย่างไรก็ดี การส่งออกในตลาดหลักส่วนใหญ่ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ขยายตัวดีขึ้น โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ดีเป็นเดือนที่  5 ติดต่อกัน ด้านสหภาพยุโรปหดตัวลดลงต่อเนื่อง อีกทั้งในหลายตลาดเริ่มพลิกกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะการส่งออกไปอินเดียพลิกกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนที่ร้อยละ 13.7 YoY 


ทิศทางการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้ายังเจอความไม่แน่นอนทั้งจากเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดยสหรัฐฯ เผชิญเรื่องการระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นทำสถิติใหม่ต่อเนื่องล่าสุดแตะระดับสูงสุดกว่า 2 แสนราย ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านผู้นำในการบริหารประเทศ โดยรอยต่อจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.2563 และ ม.ค.2564 ซึ่งอาจสร้างภาวะสุญญากาศจนทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงในไตรมาส 1/2564 รวมถึงยังต้องติดตามสถานการณ์การกลับมาแพร่ระบาดซ้ำในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศในแถบยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงฮ่องกง 


โดยล่าสุดฮ่องกงและสิงคโปร์เลื่อนเปิด Travel bubble ออกไปสองสัปดาห์ (เดิมคาดว่าจะเปิดในวันที่ 22 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา) เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น ด้านปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาท หลังธปท.ออกมาตรการเพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้กับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทยเพื่อให้เงินทุนเคลื่อนย้ายมีความสมดุลมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการส่งออกไทยในปี 2563 หดตัวที่ร้อยละ 7.00 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X