> SET > CK

23 พฤศจิกายน 2020 เวลา 08:15 น.

CKปีหน้าเทิร์นอะราวด์ แบ็กล็อกชน2แสนล้าน

ทันหุ้น – ส่อง CK นักวิเคราะห์ประเมินปีหน้าโอกาสได้ Backlog เพิ่มแตะ 2 แสนล้านบาท จากการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ คาดหนุนรายได้เต็มที่ตั้งแต่ปี 2565 เร่งขึ้นเป็น S-Curve รอบใหม่ ทำให้ภาพธุรกิจรับเหมา Turnaround และดีต่อเนื่องไปอีก 6 ปีข้างหน้า เคาะพื้นฐาน 27.75 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ว่า งานในมือ ( Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.15 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าบริษัทมีโอกาสจะได้ Backlog เพิ่มในปี 2564 จากการเข้าร่วมประมูลหลายโครงการ อย่างเช่น 1.รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (มูลค่างานโยธา 9 หมื่นล้านบาท และงาน O&M 3 หมื่นล้านบาท) 2.โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ (งานโยธา 6 สัญญามูลค่ารวม 7.74 หมื่นล้านบาท)


3.โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (~8 หมื่นล้านบาท) และ4.โครงการรถไฟทางคู่เฟสสอง (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, บ้านไผ่-นครพนม, ขอนแก่น-หนองคาย) โดยโครงการที่เป็นเป้าหมายสำคัญของ CK ในปีหน้าคือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง เราคาดว่าโครงการหลวงพระบางจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2566หรือ ในปี 2567


ทั้งนี้ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 6.9% เนื่องจากปรับลดประมาณการรายได้ปี 2564 ลง 23.7%เพราะมีการเลื่อนส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินจากไตรมาส 1/2564 เป็นไตรมาส 3/2564 ดังนั้นจึงใช้สมมติฐานว่าไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการนี้ในปี 2564


*งานใหม่หนุนอนาคต


ขณะที่เชื่อว่าผลประกอบการจากธุรกิจหลักในไตรมาส 4/2563 จะพลิกจากกำไรเป็นขาดทุน เนื่องจาก 1.ขาดรายได้เงินปันผลจาก Thai Tap Water (TTW.BK/TTW TB)* 2.รายได้ equity income จาก CK Power (CKP.BK/CKP TB)* ลดลงเนื่องจากกระแสน้ำลดลง


นอกจากนี้ Backlog ที่ต่ำ ก็ทำให้เราคาดว่าธุรกิจก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ CK จะยังคงซบเซาไปจนกว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ (รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก หรือไม่ก็โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง)


ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2564 ที่ 27.75 บาท โดยเชื่อว่า Backlog น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 และจะเพิ่มขึ้นในปี 2564 จาก 1.โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงตะวันตกถ้าหากกลุ่มของ BEM ชนะประมูล 2.โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (คาดว่าจะสรุปสัญญาทั้งหมดได้ภายในปี 2564) และ3.การเปิดประมูลงานโยธาของโครางการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป


*แบ็กล็อกนิวไฮรอบ 6 ปี


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CK ว่า ผู้บริหารมีมุมมองบวกต่อการรับงานใหม่เข้ามาเติมในปีหน้า ตั้งเป้าหนุนให้ Backlog เร่งขึ้นเป็นระดับ 2 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน 3.1 หมื่นล้านบาท โดยจะเข้าร่วมประมูลโครงการเป้าหมายหลักในปีหน้าคือ


1.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง มูลค่าราว 1 แสนล้านบาท ซึ่ง CK มีความคืบหน้าในการเจรจามากขึ้น และคาดได้ข้อสรุปกลางปีหน้า 2.รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก แบ่งเป็นงานโยธา 9 หมื่นล้านบาท ซึ่ง BEM ยื่นซองแล้ว และอยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาลปกครอง คาดเริ่มงานก่อสร้างหลักในไตรมาส 4/2564 โดยมองว่า BEM มีแต้มต่อคู่แข่ง


3.รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ มูลค่า 1 แสนล้านบาท คาดประมูลในปี 2564 4.รถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง มูลค่ารวม 1.5 แสนล้านบาท แต่เส้นทางที่มีความคืบหน้ามากสุดคือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท โดย CK คาดหวังได้รับ 1 ใน 3 สัญญา ที่เป็นงานอุโมงค์ มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท คาดขายซองในไตรมาส 1/2564 อย่างไรก็ดี คาดว่าโครงการส่วนใหญ่จะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2564 ทำให้รับรู้รายได้ในปี 2564 ไม่มาก แต่คาดหนุนรายได้เต็มที่ตั้งแต่ปี 2565 เร่งขึ้นเป็น S-Curve รอบใหม่ ทำให้ภาพธุรกิจรับเหมา Turnaround และดีต่อเนื่องไปอีก 6 ปีข้างหน้า

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X