> Trendtalk > WHA

23 พฤศจิกายน 2020 เวลา 06:20 น.

WHA

ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1390 จุดเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1400 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1360-1365 จุดขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1440 จุด


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ WHA หรือ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยสามารถจำแนกส่วนธุรกิจได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Logistics Hub) ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development Hub) ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power Hub) และธุรกิจให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Platform Hub) อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีนโยบายในการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ฯ (WHART HREIT และ WHABT) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการในอนาคตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง


บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 428 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0287 บาท กำไรลดลง  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 569 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0388 บาท


ในขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิ 1,069 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0716 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 2,028 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.14 บาท

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/63 บริษัทมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร และกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,611.4 ล้านบาท และ 428.6 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ และกำไรสุทธิปกติทั้งสิ้น 1,609.0 ล้านบาท และ 440.7 ล้านบาท ลดลง 28.0% และ 3.6% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/62


ด้านผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 4,855.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,069.9 ล้านบาท โดยหากพิจารณาถึงผลประกอบการปกติ บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงาน 4,893.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 1,155.3 ล้านบาท ลดลง 26.4% และ 25.6% ตามลำดับจากปีที่แล้ว


ธุรกิจโลจิสติกส์ ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 302.0 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าอีกกว่า 200,000 ตารางเมตร กับกลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจอาหาร และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารทั้งหมดของบริษัทฯ มีมากกว่า 2,500,000 ตารางเมตร ภายในสิ้นปีนี้


สำหรับการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ก็เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยคาดว่าจะโอนทรัพย์สินและสามารถรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 4,600 ล้านบาท ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้


ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการโอนที่ดินไตรมาส 3 เท่ากับ 112.0 ล้านบาท โดยมีการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและการขายที่ดินใหม่ ยังคงเลื่อนออกไปจากมาตรการจำกัดการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้ค่าสิทธิในการผ่านทางเข้ามาหนุน จำนวน 307.9 ล้านบาท ทำให้กำไรขั้นต้นจากธุรกิจที่ดินและการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 เท่ากับ 94.4 ล้านบาท


ขณะที่ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม เขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน - 1 เหงะอาน ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัท เกอร์เท็ก พรีซิชั่น อินดัสทรี เวียดนาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครื่องกลไฟฟ้าจุลภาค (MEMS) ระดับโลกจากประเทศจีน ได้ซื้อที่ดินจำนวน 253 ไร่จากบริษัทฯ เพื่อสร้างโรงงานสำหรับการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น หูฟังแอร์พอด เป็นต้น บริษัทฯคาดว่า ยอดขายที่ดินในประเทศเวียดนามปีนี้ จะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ปี 2564 บริษัทฯ มีแผนเตรียมการลงทุนพัฒนาพื้นที่เขตอุตสาหกรรมในโซน 2 และ 3 ของเฟส 1 เพื่อรองรับนักลงทุนที่สนใจเพิ่มเติม


ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญของการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตและบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีการให้บริการด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบเน็ตเวิร์ก การให้บริการโครงข่าย FTTx ตลอดจน Cloud และ Managed Service รวมถึงโซลูชั่นต่างๆ เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในอนาคตสามารถต่อยอดไปสู่การให้บริการด้านเทคโนโลยี 5G อีกด้วย


WHA มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 3.93 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 6.40 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 3.10 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 2.94 ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 3.20 เป็นแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง แต่ถ้าราคหุ้นถูกขายที่บริเวณ 2.90-2.94 จะมีแนวรับที่ 2.70 เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X