ทันหุ้น- WHA เตรียมบันทึกกำไรพรึบ Q4/2563 หลังขายทรัพย์เข้า 2 กองทุน รวม 4.5 พันล้านบาท ชี้มีการกระจายความเสี่ยงรับได้ทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ มองวัคซีนเปิดทางลูกค้าเข้าซื้อที่ดินปีหน้า รอรับยอดกระฉูด RCEP หนุนลงทุนไทย ด้าน HREIT โชว์ฝีมือยอดเช่าสูง เพิ่มทุนซื้อสินทรัพย์ต่อยอด ยีลด์พุ่ง 9.2%

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ระบุว่า บริษัทยังคงคาดหวังผลงานของบริษัทในไตรมาส 4/2563 จะออกมาเติบโตสูงมาก  จากการที่บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน 2 กองทุน ประกอบด้วย การขายสินทรัพย์เข้า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART มูลค่า 3,233.96 ล้านบาท  และการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เหมราช หรือ HREIT มูลค่า 1,337.70 ล้านบาท รวมมูลค่ามากกว่า 4,570 ล้านบาท

ทั้งนี้ธุรกิจของบริษัทมีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมาก โดนในส่วนนิคมอุตสาหกรรม แม้ลูกค้าจะยังไม่สามารถเข้ามาซื้อที่ดินได้ขณะนี้ แต่ก็ยังมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน โดยธุริกจหลักของ 4 ธุรกิจ ช่วยให้บริษัทกระจายความเสี่ยงได้ดี ทั้งในยามที่เศรษฐกิจดี และแย่ มีรายได้ทั้งการขายที่ดิน และรายได้ประจำช่วย ล่าสุด บันทึกรายได้สิทธิการใช้ทาง (right of ways) จำนวน 307.9 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์วัคซีนที่กำลังจะเกิดขึ้น นั้นต้องพิจารณาว่าจะเข้ามาใช้จริงเมื่อไหร่ รวมไปถึงความเคร่งครัดในการเปิดประเทศไทยของไทย ถ้านักลงทุนต่างชาติเข้ามาได้เมื่อไหร่ยอดขายก็จะทะลุทะลวง เพราะขณะนี้ลูกค้ายังคงรออยู่ ซึ่งจะทำให้ปีหน้า ผลงานเติบโตดีกว่าปีนี้มาก ส่วน ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP)นั้นนับเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้การลงทุนไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนย้ายแรงงานสินค้าต่างๆ ง่ายขึ้นจะทำให้ต้นทุนของไทยถูกลง ท่ามกลางโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวกสบาย จึงเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุน

@ HREIT ซื้อทรัพย์ WHA 1.3พันล.

ด้านนางสาวจารุชา สติมานนท์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัดในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวว่า กองทรัสต์ HREIT อยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มทุนครั้งที่ 2เพื่อเข้าซื้อทรัพย์สินมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,337.70ล้านบาทจาก กลุ่ม WHA ในพื้นที่ 5โครงการ โดยเป็นการลงทุนในพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้า 15ยูนิต รวม 48,127 ตารางเมตร เป็นสินทรัพย์ในในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สัดส่วน 92% ภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สิน ประมาณการสินทรัพย์รวมของกองทรัสต์ HREIT จะเพิ่มขึ้นเป็น 11,250.94 ล้านบาท จากปัจจุบันกองทรัสต์มีมูลค่าสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 9,913.24ล้านบาท

นางสาวจารุชา ระบุว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมนั้น นับเป็นการขยายประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการเช่าสูงถึง 92.3% และเป็นการสูงเกิน 90%มาต่อเนื่อง โดยสินทรัพย์ที่ซื้อมาทั้งหมดนั้น มีอัตราการเช่าอยู่ที่ระดับ 82%แต่ทาง WHA ได้การันตรีส่วนชดเชยเพิ่มให้เป็น 100%ในระยะเวลา 3 ปี

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา HREIT มีประสิทธิภาพในการเพิ่มอัตราการเช่ามาโดยตลอด ซึ่งพิสูจน์ได้จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทมีอัตราการเช่า 70%และสามารถเพิ่มขึ้นมาสูง 90% ในระยะเวลาไม่นาน เนื่องจากที่ผ่านมา WHA ในฐานะผู้พัฒนามีประสบการณ์และมีความสามารถในการดึงลูกค้าเข้ามา ประกอบกับนอกจากนี้พื้นที่ EEC ยังเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีโครงสร้างสาธารณูปโภคที่สะดวกสบาย ทำให้ธุรกิจที่ต้องการสาธารณูปโภค จะเข้ามาสู่ในไทยมากกว่าชาติอื่น

สำหรับการเพิ่มทุน ของกองทรัสต์ HREIT นั้น มีจำนวนไม่เกิน 137.50ล้านหน่วย ที่ผ่านมาได้เปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อตั้งแต่วันที่ 16พฤศจิกายน ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี โดยจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมจองซื้อถึง 26พฤศจิกายนนี้ สำหรับบุคคลทั่วไป จะเปิดให้จองซื้อถึง 27พฤศจิกายน โดยผู้ลงทุนที่สนใจจะทำการจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุด 7.50บาท/หน่วย หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุดก็จะทำการคืนเงินส่วนต่างให้

@ ยีลด์ปันผลสูง9.2%

นางสาวจารุชา ระบุด้วยว่า ภายหลังจากที่กองทรัสต์ HREIT มีการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลและเงินลดทุน (Total Distribution Yield) เพิ่มขึ้น อ้างอิงจากประมาณกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564ซึ่งสอบทานโดยผู้สอบบัญชี และได้มีการประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนต่อหน่วย จำนวน 0.69บาท

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้คำนวณอัตราผลตอบแทนอ้างอิงการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ 0.69 บาท เทียบกับราคาจองสูงสุดที่ 7.50 บาท พบว่า จะได้ผลตอบแทนจากปันผลและลดทุนราว 9.2%โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลปีละ 4ครั้ง คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากปันผลและลดทุนเฉลี่ยปีละ 8%ขึ้นอยู่กับต้นทุนผู้ถือหน่วย

ด้านบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อหุ้น WHA โดยให้ราคาเป้าหมายของปี 2564ที่ 3.60 บาท และเลือกเป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/2563 ทำจุดสูงสุดในรอบปี 2563โดยเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากคาดรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์เข้า HREIT ประกอบกับรายได้จากการขายน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้คาดว่าธุรกิจโลจิสติกส์ยังเติบโตได้ดี เพราะความต้องการพื้นที่คลังให้เช่าสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19