JMART รายงานผลประกอบการ 3Q63 มีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท ขยายตัว 110%YoY ทำสถิติสูงสุดใหม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 สะท้อนความแข็งแกร่งในการประกอบธุรกิจ โดยธุรกิจขายโทรทัพท์ เติบโตได้ดีจากในงวดที่ผ่านมามีการออกขายโทรศัพท์มือถือรุ่น Flagship ที่รองรับกับระบบ 5G เช่น Samsung Note20 รวมถึงอุปกรณ์เสริมในรุ่นด้วย ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลผ่าน เจ ฟินเทค มีความเข้มงวด เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง รวมถึงมีลูกหนี้บางส่วนเข้าร่วมโครงการภาครัฐราว 9.8% ของลูกหนี้ ทั้งหมด โดยสิ้นงวด 3Q63 มีลูกหนี้ 3.43 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แต่มีคุณภาพลูกหนี้เฉลี่ย ทำได้ดีขึ้น รวมถึงมีรายการตัดหนี้สูญได้คืน 

ส่วนธุรกิจหนี้ด้อยคุณภาพผ่าน JMT ยังคงเติบโต ผ่านการซื้อหนี้ เพิ่ม อีกทั้งการแปลง JMT-W2 เพื่อสร้างฐานเงินทุนให้ใหฐ่ขึ้นเพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพิ่มเติม ส่วนกลุ่มอสังหา ผ่าน JAS assets มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และเริ่มมีการคลาย lockdown หนุน traffic ภายในห้าง และธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่อ Car for cash ผ่าน SINGER ยังเติบโตได้ ต่อเนื่อง รวมถึงมีผลประกอบการสูงที่สุดในรอบหลายปีในงวดนี้ ขณะที่อัตราการทำกำไรขั้นต้น 36.8% เพิ่มขึ้น YoY จากรายได้ติดตามหนี้ ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหลัก ส่วนค่าใช้จ่ายก็ลดลงเช่นกันจากค่าใช้จ่ายส่งเสริม การขาย ค่าใช้จ่ายพนักงานและการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง

สำหรับแนวโน้ม 4Q63 แบ่งตามรายธุรกิจเป็น

1. ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์และอุปกรณ์เสริม มองว่ายอดขายจะยังเติบโตต่อเนื่องจากการเริ่มใช้เทคโนโลยี5G รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ของกลุ่ม Apple โดยเฉพาะ iPhone12 รวมถึงได้รับ sentiment เชิงบวกจากนโยบายช้อปดีมีคืน ที่จะส่งเสริมยอดขายให้เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการปรับค่าใช้จ่ายลง

2. ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล มองว่า Jay Fintech จะยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ ไม่ให้ NPL ratio เกินกว่า6% รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

3. ธุรกิจบริหารหนี้ ผ่าน JMT ยังคงเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและหนี้ที่รับซื้อมาจะเน้นที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้น และจะรักษาระดับ cash collection

4. ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ มีมุมมองเชิงบวกเนื่องจากเข้าสู่ช่วง High season รวมถึงแนวโน้ม occupancy rateที่เพิ่มขึ้น สะท้อนต่อ เจเอเอส มีรายได้พื้นที่เช่ามากขึ้น

5. สายธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมสินเชื่อเช่าซื้อ และ Car for cash บริษัทมองว่า SINGER ยังมีโอกาสเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดซึ่งมีความสัมพันธ์กับชุมชนที่เหนี่ยวแน่น และมี ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ลึกข้าไปในระดับชุมชน รวมถึงจะมีการคัดตัวแทนขายให้มีคุณภาพมากขึ้น

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นแนวโน้มการแกว่งตัวของแท่งเทียนอยู่ในกรอบUptrend ChannelโดยมีแนวรับสำคัญSMA10วันและ25วัน ยืนเหนือมั่นคงเป็นสัญญาณบวกของรูปแบบ ระหว่างวันมีแนวต้านสำคัญรูปแบบสามเหลี่ยมAscending 17.30-17.50 ผ่านยืนมั่นคงเป็นBuy Sig.ใหญ่ แนวโน้มทดสอบแนวต้านตามลำดับ

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน / แนวต้าน 17.50/18.20 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 16.80/16.30 ไม่ควรต่ำกว่า