> SET >

11 พฤศจิกายน 2020 เวลา 15:30 น.

ตลาดหุ้นไทยยังมีดีพอให้ต่างชาติกลับมาเหลียวมอง

ทันหุ้น-บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทย 2.12 หมื่นลบ. ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา คำถามคือ ซื้อจริงหรือแค่ปรับพอร์ตระยะสั้น ถ้าอิงตามสถิติที่ต่างชาติไม่เคยขายสุทธินานเกิน 15 เดือน และภาวะ Underperform ภูมิภาคอย่างมาก มั่นใจว่าต่างชาติจะมียอดเป็นซื้อสุทธิในเดือนนี้ แต่จะยาวนานถึงปีหน้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองและการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ 


โดยสมมติฐานเบื้องต้นของเรายังคาดว่าเป็นกระแสเงินส่วนเกิน (Excess Fund Flow)ที่เข้ามาปรับสมดุลภาวะ Underperformควบคู่ไปกับการเก็งกำไรค่าเงินบาท จากผลของการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งในภาวะปกติจะมีกินเวลา 1-3เดือน ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการไหลเข้าของกระแสเงินรอบนี้คือ หุ้นที่ NVDR ขายออกไปมากและยอดถือครองยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย YTD ซึ่งได้แก่ AOT, BBL, PTTEP, IRPC, MINT, ADVANC, DTAC, CPF, STEC โดยคาดว่าการไหลเข้าของกระแสเงินอาจกลับไปสะดุดอีกครั้งในช่วงกลาง พ.ย. – ต้นธ.ค. 63 เพื่อรอดูความชัดเจนด้านปัจจัยการเมือง


ต่างชาติเร่งซื้อหุ้นมากขึ้น

ปีนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้ว -2.84 แสนลบ. (ถึงวันที่ 10 พ.ย. 63) โดยยอดขายสุทธิสะสมพุ่งไปถึง -3.05 แสนลบ. ก่อนจะติดลบน้อยลงจากแรงซื้อสุทธิใน 2 วันทำการรวม 2.12 หมื่นลบ. โดยสาเหตุที่ทำให้ต่างชาติพลิกกลับมามองหุ้นไทยประเมินได้จาก (1) ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ช่วยลดแรงกดดันด้าน Trade War หนุนให้กระแสเงินไหลกลับมาฝั่งเอเชียมากขึ้น 


(2) การควบคุม COVID-19 ของเอเชียทำได้ดีกว่ายุโรปและสหรัฐฯจึงคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วกว่า โดยเฉพาะประเทศที่มีธุรกรรมการค้าเชื่อมโยงจีน 


(3) การพัฒนาวัคซีน COVID-19 ระยะที่ 3 จาก 11 ราย คาดว่าจะมีผลเชิงบวกต่อเนื่อง หลังจาก Pfizer และ BioNTech ประกาศผลการทดลองเบื้องต้นว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกัน COVID-19 เมื่อนำมาใช้กับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ขณะที่ Sputnik V ของรัสเซียก็ไม่น้อยหน้า ออกมาให้ความเห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในระดับที่ใกล้เคียงกัน 


(4) ภาวะ Underperform ของตลาดหุ้นไทย โดยถ้าพิจารณาถึงวันที่ 10 พ.ย. 63 พบว่า SET INDEX ยัง -19% YTD เทียบกับกลุ่ม TIPs ที่ -15% YTD,MSCI EM ที่ +7% YTD, และ MSCI AP ex JP ที่ +11% YTD


สิ่งที่ไม่คาดหวัง... เมื่อเกิดขึ้น... จะกลายเป็น Positive Surprise

หลังจากที่ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 15 เดือนติดต่อกัน ทำให้เราไม่ได้คาดหวังการไหลเข้าของกระแสเงินมากนัก แต่เมื่อต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยในระดับที่มีนัยสำคัญ จึงทำให้ปัจจัยด้านสภาพคล่องส่วนเกิน (Excess Fund Flow) กลายเป็นตัวแปรที่อาจสร้าง Positive Surprise ให้กับตลาดหุ้นไทย โดยเรามีข้อสังเกตอยู่ 4ประการ คือ


(1) ต่างชาติอาจหยุดสถิติการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไว้ที่ 15 เดือนติดต่อกัน โดยถ้าย้อนไปครั้งล่าสุดที่ต่างชาติขายหนักต่อเนื่องคือ ต.ค. 60 - ธ.ค. 61 เป็นระยะ 15 เดือนติดต่อกัน รวม -3.2 แสนลบ. รอบนี้นับถึง ต.ค. 63 ต่างชาติขายสุทธิมาแล้ว 15 เดือนติดต่อกัน เป็นไปได้สูงที่จะสลับมาเป็นซื้อสุทธิใน พ.ย. 63


(2) ตลาดหุ้นไทย Underperform ภูมิภาคอยู่มาก โดย Performance YTD ยังแย่กว่า TIPs ราว 5% และแย่กว่า MSCI AP ex JP ราว 30%


(3) Downside ในการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์เริ่มจำกัด หลังหุ้นใหญ่รายงานงบ 3Q63 ใกล้เคียงหรือดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่ Underperform ตลาดอยู่ราว 20% YTD


(4) เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าจากผลการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แม้ยอดส่งออกและท่องเที่ยวจะทรุด แต่การนำเข้าและการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ กอปรกับ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังเป็นบวก จึงทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่ากว่าภูมิภาค ซึ่งยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้กระแสเงินทุนระยะสั้นไหลเข้า


หุ้นที่ NVDR ลดน้ำหนักไปมาก น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น

นภาวะปกติ เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ฝ่ายวิจัยจะประเมินจากภาวะ Underperform และหุ้นที่มีโอกาสถูก Short Covering ซึ่งคาดว่าการเร่งตัวของหุ้น Vaccine Play วานนี้ได้สะท้อนภาพดังกล่าวไปแล้วพอควร จึงใส่เงื่อนไขเพิ่มเติม 


ทั้งนี้พิจารณาจากหุ้นที่ NVDR ขายสุทธิไปมากในปีนี้ และยอดถือครองยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย YTD ซึ่งยังมีหุ้นกลุ่ม Vaccine Play ติดเข้ามาอยู่บางตัว ได้แก่ AOT, BBL, PTTEP, IRPC, MINT, ADVANC, DTAC, CPF, STEC โดยคาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนผ่าน NVDR ในหุ้นเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่สมมติฐานของฝ่ายวิจัย ประเมินการไหลเข้าของกระแสเงินรอบนี้เป็น Hot money ที่หวังเก็งกำไรควบคู่กับค่าเงินบาท จึงเป็นคำแนะนำสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น 


โดยมีความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจทำให้การไหลเข้าของกระแสเงินกลับมาสะดุด เพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้งในช่วงกลาง พ.ย. - ต้น ธ.ค. 63


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X