> SET >

11 พฤศจิกายน 2020 เวลา 09:25 น.

โบรกฯ คาด SET แกว่งแดนบวก แต่ Upside เริ่มจำกัด เน้นหุ้นการท่องเที่ยว

ทันหุ้น : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1341.24 จุด (+55.36 จุด) ยอมรับว่าโมเมนตัมการขึ้นระยะสั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่เริ่มเห็นสัญญาณบ่งชี้ว่า Upside เริ่มจำกัด หลัง RSI เข้าสู่ภาวะ Overbought วางแนว้ตาน 1350 จุดเป็นด่านสำคัญ


กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  แบ่งขายทำกำไรบางส่วน หลังดัชนีเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1350 จุด

ไม่มีหุ้น  เก็งกำไรตามโมเมนตัม หากดัชนีลงมาปิด Gap ที่ 1293 จุด ให้ตัดขาดทุนทันที


ประเมินแนวรับ 1330/1313  แนวต้าน 1350/1380


**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะยังแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องทดสอบระดับ 1,350+- จุด โดยตลาดยังคงตอบรับเชิงบวกับพัฒนาการของวัคซีน COVID-19 ของ Pfizer&BioNtech ขณะที่ดร.เฟาซีกล่าวว่าสหรัฐฯ จะพร้อมใช้งานวัคซีนแก่ประชาชนได้ช่วงเดือน เม.ย. 21 ทำให้เม็ดเงินยังคงไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไทยที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวสูง ทำให้คาดว่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดหากการระบาดคลี่คลาย 


ประกอบการเมืองในประเทศไทยที่ยังไม่มีสัญญาณรุนแรงอย่างน่ากังวล ทำให้เราคาดว่า SET Index มีโอกาส Outperform และได้แรงหนุนจากแรงซื้อจากต่างชาติระยะนี้ โดยกลุ่มที่น้ำตลาดยังคงเป็น Vaccine Play ได้แก่ กลุ่มโรงแรม สายการบิน สนามบิน รวมถึง Global Play อย่างน้ำมันและโรงกลั่นจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 


กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นธีม Vaccine Play และหุ้น Big Cap //รอทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานช่วงตลาดปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือนพ.ย. : AP, BCH, CBG, MAKRO, ZIGA


หุ้นเด่นวันนี้:ADVANC

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 216 บาท 

• เป็นหุ้น Big Cap ที่ราคายังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าหุ้นใหญ่ในอุตสหากรรมอื่นที่ปรับตัวขึ้นแรงวานนี้จากประเด็นวัคซีน COVID-19 ทำให้คาดว่ามีโอกาสที่กระแสเงินทุนอาจไหลเขาจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าในฐานะ Laggard Play 

• คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q20-3Q20 และทยอยฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงรายได้จาก Roaming และ Traveller SIM ที่จะกลับมาในระยะถัดไปโดยเฉพาะหลังได้วัคซีน COVID-19


Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$556 ล้าน โดยเข้า TIP มากกว่าเอเชียตะวันออกนำโดยไทย US$620 ล้าน ซึ่งได้ประโยชน์มากที่สุดจากพัฒนาการของวัคซีน COVID-19 ส่วนไต้หวันและเกาหลีใต้ซึ่งมีเม็ดเงินไหลเข้าหนาแนในช่วงก่อนหน้า พลิกมาไหลออก US$210 ล้านและ US$25 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังผ่อนคลายและคาดเม็ดเงินยังไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง


**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ ลดความร้อนแรงหลังปรับตัวขึ้นแรงวันก่อน ตลาดหุ้นเอเซียเข้านี้บวกได้น้อยลง แรงซื้อหุ้นอิงการท่องเที่ยวคาดยังมีและจะเป็นตัวหลักๆ ที่พยุงตลาด ขณะที่การรายงานกำไร 3Q มีผลต่อหุ้นรายตัว กลยุทธ์ ยังให้น้ำหนักกับหุ้นอิงการท่องเที่ยว แต่ควรระวังแรงขายทำกำไรจากการเปลี่ยนกลุ่มที่จะเข้ามาเก็งกำไร  


การประกาศข่าวดีในเรื่องวัคซีนของ Pfizer และ Eli Lilly ช่วยปลด lock ความกังวลที่สหรัฐฯ-ยุโรป กำลังมีการติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก และพิสูจน์ได้ว่า ไวรัสตัวนี้มีทางแก้หรือรักษา หุ้นที่ราคาลงมามากๆ คือกลุ่มที่อิงการท่องเที่ยว (โรงแรม-โรงกลั่นน้ำมัน-ผู้ผลิตน้ำมัน-ธุรกิจการบิน) อาจขึ้นต่อได้อีกเล็กน้อย  โดยก่อนหน้านี้เราประเมินกลุ่มนี้ จะฟื้นได้ประมาณ 20% จากจุดต่ำสุด  แต่อาจมีการขายหุ้นกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องหรือหุ้นที่ไม่ได้ประโยชน์จากการมีวัคซีน (กลุ่มไอที อีเล็คทรอนิคส์)  


ราคาน้ำมันดิบ  ที่ปรับตัวสูงขึ้น(brent $43)  และดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง (Dollar Index 92.7) เป็นบวกต่อหุ้น Commodity ตัวอื่นๆ และตลาดหุ้นไทยที่มีน้ำหนักของหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี ค่อนข้างมาก โดย top picks หุ้นกลุ่มนี้ คือ TOP, PTTEP, PTTGC  แต่ในทางตรงกันข้ามหุ้นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็ง คือหุ้นกลุ่มส่งออก รวมถึงนโยบายของสหรัฐฯ ที่อาจกีดกันทางการค้า อย่างที่เห็นการตัด GSP และมีผลกระทบต่อผู้ค้ายางพาราของไทย (NER, STA) 


ตลาดเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการส่งงบ 3Q  วันสุดท้ายคือ  16 พย. KTBST รวบรวมกำไรล่าสุดของ SET อยู่ที่ 8.7 หมื่นลบ. -20% YoY ; +11.6% QoQ Event สำคัญของวันนี้  ผู้ว่าธปท.จะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทย และบอร์ดแข่งขันฯ จะแถลงในเรื่องดีลของการซื้อ Tesco ของกลุ่มซีพี


#Strategy

ภาพรวมๆ จากเรื่องวัคซีน เรายังมองบวกเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องและราคาลงมามาก กลยุทธ์ลงทุนวันนี้  ควรให้น้ำหนักกับหุ้นอิงการท่องเที่ยว แต่ควรระวังแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มอื่นๆ จากการเปลี่ยนกลุ่มเล่น  พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ SUN ออกจากพอร์ต และเพิ่ม GPSC เข้ามาแทน  พอร์ตหลักประกอบด้วย  GPSC(10%), BANPU*(10%), KTC(10%), AAV (10%), TOP(15%), MINT(15%) ส่วนพอร์ต KTBST SET50 Skynet คงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด  RATCH (20%), BBL(30%),GULF(10%),  BDMS(10%), CBG(10%), CPALL(10%)


#Strategy top picks

BBL : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 120 บาท)  “ ความแข็งแกร่งด้านการเงินยังดี ”

- ตลาดหุ้นฟื้นต่อจากข่าวบวกในเรื่องวัคซีน  จะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ราคาลงมามาก โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร เป็นกลุ่มที่ราคาลงมามากอันดับต้นๆ หลังรายงานกำไร 3Q ไปแล้ว พบว่าราคาทยอยปรับตัวขึ้น น่าจะมาจากแนวโน้มไม่ได้แย่อย่างที่คิด

- BBL มีความเสี่ยงเรื่อง Debt relief น้อยกว่ากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ คาดการตั้งสำรองฯใน 4Q20E จะน้อยกว่าธนาคารอื่นๆ และจะส่งผลให้แนวโน้มกำไรใน 4Q20E จะเติบโต QoQ ได้


Technical : ADVANC,  SPALI


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X