> SET > DRT

04 พฤศจิกายน 2020 เวลา 11:59 น.

DRT มีเอี่ยวช็อปดีมีคืน ชูปันผลเด่น-เป้า7บาท

ทันหุ้น - DRT ส้มหล่น! รับ "ช็อปดีมีคืน" หนุนยอดขายพุ่ง ซีอีโอ"สาธิต สุดบรรทัด" ดีเดย์เปิดไลน์ผลิตใหม่ อัพฐานกลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ ส่องปันผลปีนี้ราว 0.40 บาทต่อหุ้น แนะสอยเมื่ออ่อนตัว เคาะเป้าหมาย 7.00 บาท


นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ประเด็นที่ภาครัฐได้ออกโครงการ “ช้อปดีมีคืน” มากระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยบุคคลที่เสียภาษีเงินได้สามารถนำค่าซื้อสินค้าและบริการ มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนจ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน รับภาษีคืนสูงสุด 10,500 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563นั้นบริษัทมองเป็นผลดีเพราะจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าของบริษัทปรับตัวดีขึ้น


ล่าสุดบริษัทได้มีการเริ่มกระบวนการทดสอบเครื่องจักรสายการผลิตใหม่ NT-11รองรับการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่มเติม จากเดิมที่บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม (สินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และกลุ่มหลังคา) ทั้งหมดประมาณ 1.1 ล้านตันต่อปี คาดเปิดผลิตออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการได้ในปี 2564ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คงวางไว้คงทำให้ความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 55,000 ล้านตันต่อปี


สำหรับไลน์การผลิตใหม่ในส่วนของ NT-11 นั้นจะมาช่วยเสริมศักยภาพการผลิตสินค้าประเภทกลุ่มไม้สังเคราะห์ของบริษัทให้เพิ่มขึ้น เบริษัทมองว่าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวยังมีโอกาสขยายตัวจากจุดเด่นของผลิตภัณฑ์mujมีความสวยงามเสมือนไม้ธรรมชาติ แต่มีความแข็งแรง ดูแลรักษาง่าย สะดวกรวดเร็วในการติดตั้ง ส่งผลให้มีความต้องการใช้งานแพร่หลาย อีกทั้งคาดไลน์ผลิตดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มอีกขึ้นราว 200-300 ล้านบาทต่อปี (บนสมมุติฐานการใช้อัตรากำลังผลิต NT-11 ที่ราว 80% ในปีแรก)


จากการสำรวจข้อมูลสัดส่วนรายได้ของ DRT ล่าสุดแบ่งเป็นการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าในไทยประมาณ 82%,ส่งออกไปยังต่างประเทศอีก 18% รวมทั้งมีแนวทางขยายตลาดไปยังประเทศใหม่อย่างอินเดียและอิรักเพิ่ม หวังสนับสนุนยอดขายรวมของธุรกิจอีกทางหนึ่งซึ่งหากจำแนกจาก 4 ช่องทางหลัก ประกอบด้วยช่องทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยประมาณ 50% ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) อีก 17 % ลูกค้าโครงการ 15- 16%และอื่นๆ


นอกจากนี้ ทาง DRT ยังมีแนวทางต่อยอดกลยุทธ์ ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ โดยจากการนำจุดแข็งสินค้าวัสดุก่อสร้างที่หลากหลายสามารถนำมาก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลังเพื่อขยายตลาดสู่การสร้างบ้านแบบน็อกดาวน์ (บ้านชั้นเดียว) ในราคาหลังละ 3 แสนบาท อย่างไรก็ดี บ้านน็อกดาวนด์ดังกล่าวนั้นจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการบ้านพักสไตล์รีสอร์ตเพื่อการพักผ่อน พร้อมเสริมความครบวงจรด้านวัสดุก่อสร้างรวมถึงนำเทคโนโลยีด้านระบบดิจิทัล พรินท์ติ้ง เข้ามาใช้รองรับการพิมพ์ลวดลายบนบอร์ดเพิ่มความสวยงามด้านการตกแต่งผนัง


ปันผลเด่นเป้า7บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัวในหุ้น DRT เคาะเป้าหมาย 7.00 บาท เนื่องจากทางฝ่ายวิเคราะห์คาดจะรักษาการจ่ายเงินปันผลเท่าปีก่อนเท่ากับ 0.40 บาท โดยครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 0.20 บาท และคาดจะจ่ายปันผลในงวดครึ่งหลังปี 2563 ในอัตรา 0.20 บาท แม้คาดกำไรในไตรมาส 3/2563 จะลดลงเหลือ 110 ล้านบาท อ่อนตัวราว 40% จากไตรมาส 2/2563 และมองว่าไตรมาส 4/2563 จะชะลอตัวต่อเนื่อง แต่เชื่อปีนี้บริษัทจะสามารถประคองตัวติดลบเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยลบ และปีหน้าคาดจะเติบโตได้เล็กน้อย แรงหนุนกำลังการผลิตใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X