> SET >

03 พฤศจิกายน 2020 เวลา 09:06 น.

โบรกฯ คาด SET บวกตามตลาดหุ้นรอบบ้าน เน้นเก็งกำไรสั้นรอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1202.16 จุด (+7.21 จุด) ดัชนีสามารถกลับขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1200 จุด สัญญาณ Stochastic เส้น %K ตัด %D ขึ้นเป็นวันแรกอีกครั้ง (ในภาพราย 240 นาที) มีลุ้นได้เห็นการฟื้นตัวในรอบสั้นนี้


กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ทยอยลดพอร์ตการลงทุน จนกว่าดัชนีจะกลับมายืน 1227 จุด

ไม่มีหุ้น  เก็งกำไรช่วงบริเวณแนวรับ 1200 จุด


แนวรับ 1195/1190  แนวต้าน 1206/1217


**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ตัวเลข PMI ออกมาดี ราคาน้ำมันดีดตัวกลับ  กลยุทธ์ เน้นเก็งกำไรช่วงสั้น เพื่อรอผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งจะชี้นำตลาดช่วงปลายสัปดาห์ 


เศรษฐกิจดีขึ้น หุ้นก็ปรับตัวขึ้นได้ หลังจากที่ ตัวเลข PMI ของจีนที่ออกมาดีก่อนหน้านี้ และของสหรัฐฯเอง คืนที่ผ่านมา ตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อ หรือ ISM อยู่ที่ 59.3 จุด สูงขึ้นจากเดือน ก.ย.ที่ 55.4 จุด ตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ช่วยลดผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 รอบใหม่ ที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ทั้งของสหรัฐฯและยุโรป เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกได้ค่อนข้างแรง 


OPEC+ นำโดยรัสเซีย มีแนวคิดที่จะชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันจากเดือน ม.ค.64 ที่ +2 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก (ประชุม 30 พ.ย.)  ช่วยฟื้นราคาน้ำมันดิบขึ้นมาได้ (ล่าสุด Brent $38.9 จากที่ลงไปต่ำสุด 2 พ.ย. ที่ $36 เหรียญ) บวกเล็กน้อยต่อหุ้นน้ำมัน (PTTEP)  ด้านปิโตรเคมีในวันนี้ spread ปิโตรเคมี ดีแค่เพียงบางตัว อาทิ SCC และ VNT 


การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ Poll ส่วนใหญ่ชี้ว่า Biden จะเป็นผู้ชนะเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ทิศทางตลาดยังคาดเดาได้ยาก อย่างไรก็ตาม หาก Trump พลิกมาชนะ เราคาดเป็นบวกต่อตลาด 


การชุมนุมในไทยวานนี้ ยังเป็นกลุ่มย่อย เรายังติดตามการหาทางออกของรัฐบาลต่อเรื่องนี้ ผลต่อตลาดหุ้นเป็นลบอยู่เล็กน้อย  event ที่ติดตามวันนี้  ประชุม ครม.น่าจะมีแนวนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคใต้ และบอร์ดแข่งขันฯ จะแจ้งผลการพิจาณราในเรื่องกลุ่มซีพีซื้อห้าง Tesco ในไทย มีผลต่อหุ้น CPALL, CPF


#Strategy

คาดตลาดจะ follow buy ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประเด็นใหญ่จะเป็นการเลือกตั้งของสหรัฐฯที่จะลงคะแนนอย่างเป็นทางการคืนนี้ 


กลยุทธ์  เราปรับเป็นเก็งกำไรช่วงสั้น ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ  พอร์ตหุ้นวันนี้ เราเพิ่ม BCPG* และ CK เข้ามา พอร์ตหลักประกอบด้วย BCPG*(10%), CK(10%), KTC(10%), TQM(10%), DCC*(10%), BANPU*(10%), SAT(10%), STA(10%) ส่วนพอร์ต KTBST SET50 Skynet คงหุ้นเดิมไว้ BDMS(10%), RATCH (20%), BBL(20%), GULF(10%)


#Strategy top picks

CK : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 17 บาท)  “ กำไรปกติ 3Q-20 คาดฟื้นตัว”

- ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก วานนี้เราเห็นการฟื้นตัวของ CK, TW, BEM 

- เราประเมินกำไรปกติ 3Q20E ที่ 335 ล้านบาท +63% YoY, +425% QoQ ผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่นหลัก ๆ หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม CKP ที่พลิกเป็นกำไรจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตแล้วตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา 

- BEM (31.3%) จำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่กลับมาฟื้นตัว 


Technical : SIS, DELTA


**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ส่องแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะแกว่งตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นทั่วโลกในกรอบ 1,200-1,215 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากปรับฐานแรงสัปดาห์ก่อน โดยกลุ่มพลังงานคาดหนุนตลาดจากราคาน้ำมันที่รีบาว์แรง 


อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คืนวันนี้ ขณะที่การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่และการ Lockdown ของหลายประเทศคาดทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 4Q20 จำกัดขึ้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศประเด็นการเมืองเริ่มอ่อนลง แต่ยังต้องติดตามหากมีการยกระดับการชุมนุม เรายังคงเน้น


กลยุทธ์เลือกการลงทุนในกลุ่ม Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการจำเป็น เช่น อาหารเครื่องดื่ม สื่อสารฯ อสังหาฯ โรงพยาบาล โดยเฉพาะหุ้นที่คาดมีกำไร 3Q20 เติบโตโดดเด่น


กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Defensive และคาดกำไร 3Q20 แข็งแกร่ง//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณแนวรับ 1,180-1,200 จุด

หุ้นเด่นเดือนพ.ย. : AP, BCH, CBG, MAKRO, ZIGA


หุ้นเด่นวันนี้:TU

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท 

• เราคาดกำไรปกติ 3Q20 โตอย่างน่าประทับใจ +29% Q-Q, +44% Y-Y จากธุรกิจกระป๋องที่โตต่อเนื่อง ธุรกิจ Frozen ฟื้นตัว และส่วนแบ่งขาดทุน Red Lobster ที่ลดลง 

• ราคาสุดราคาทูน่าปรับลงเล็กน้อย 2% M-M หลังพ้นช่วง FAD Ban เป็นบวกต่อ TU ในแง่ต้นทุนที่จะลดลง เราคาดกำไรปี 2020-2021 โต +9% Y-Y และ +10% Y-Y ตามลำดับราคาหุ้นเทรด PER เพียง 12.5 เท่าซึ่งยังถูก


Fund Flow วานนี้ กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคเล็กน้อย US$159 ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้และไต้หวัน US$153 ล้านและ US$87ล้าน ตามลำดับ จากตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ของจีนและเกาลีใต้ที่ออกมาดี อย่างไรก็ตามตลาด TIP ยังคงมีเม็ดเงินไหลออก โดยส่วนของไทยอยู่ที่ US$25 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีแนวโน้มพลิกมาไหลเข้าระยะสั้นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น แต่คาดปริมาณยังเบาบาง


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1




จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X