> SET > SMPC

26 ตุลาคม 2020 เวลา 16:55 น.

SMPC ดีมานด์ถังแก๊สโตแรง คาดโค้งสี่ทำจุดสูงสุดของปี

ทันหุ้น-สู้โควิด- SMPC ผลงานโตต่อเนื่อง คาดไตรมาส4/2563 ทำจุดสูงสุดของปีนี้ ทั้งปีคงเป้ายอดขายเติบโต 30% ส่วนปีหน้าคาดโต 15% ตลาดสหรัฐฯ กลับมาคึกคัก เดินหน้าขยายตลาดถังขนาดใหญ่ขึ้นในปี2564 เน้นประเทศเกาหลี มีดีมานด์ ฟากโบรก คาดกำไรQ3/63 แข็งแกร่งคาดเติบโต 39%แตะ125 ล้านบาท


นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เปิดเผยว่าสำหรับผลประกอบการไตรมาส3/2563 จะมีการรายงานตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งยังเติบได้ต่อเนื่อง และคาดว่าไตรมาส 4/2563 ผลประกอบการจะมีโอกาสทำจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากสามารถส่งออกสินค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีความต้องการใช้งานถังแก๊สสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศอื่นก็มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะได้รับผลกระทบเรื่องของการขนส่งบ้าง ที่อาจจะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ทางการส่งทำให้ขนส่งได้น้อย แต่บริษัทคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นต่อเนื่อง


*ดีมานด์ถังแก๊สเติบโตดี

อีกทั้งปี 2564 บริษัทจะมีการขยายออเดอร์ถังแก๊สขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการต่างประเทศ อย่างเช่น ในประเทศเกาหลี ส่วนตลาดในประเทศไทยคาดว่าปีหน้าก็จะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้คาดว่าปี 2564 บริษัทจะสามารถทำยอดขายเติบโตได้ 15% จากปี 2563 ที่ยังคงเป้าหมายยอดขายถังแก๊สไว้ที่ 7.3 ล้านถัง เติบโต 30% แต่ทั้งนี้จะเน้นในเรื่องของการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดีที่สุด จะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 10-15% จากการบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


“ตอนนี้ยอดขายของบริษัทก็เติบโตได้ดี ตลาดต่างประเทศก็ดีขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯมีการเติบโตอย่างมาก ทำให้ปีนี้ยอดขายยังเป็นไปตามเป้า และเบื้องต้นก็ได้มีการทำแผนปีหน้าแล้วคาดว่ายอดขายยังเติบโตได้ 15%แต่บริษัทจะให้ความสำคัญเรื่องของมาร์จิ้นมากกว่า จะพยายามทำมาร์จิ้นให้อยู่ในระดับที่สูง”นายสุรศักดิ์ กล่าว


โบรกส่องแนวโน้มดี

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC คาดว่ากำไรสุทธิของ SMPC ในไตรมาส 3/2563 จะอยู่ที่ 125 ล้านบาท เติบโต 39%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 31%จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิใน 9 เดือนปี 2563 อยู่ที่ 453 ล้านบาท เติบโต 53%จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 83%ของประมาณการกำไรปีนี้ โดยกำไรที่เติบโต จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากปริมาณยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรที่ลดลง จะมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง


นอกจากนี้คาดอัตรากำไรขั้นต้นของ SMPC ในไตรมาส3/2563 อยู่ที่ 23.0% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 9 เดือนปี 2563 อยู่ที่ 24.0% สูงกว่าสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 22.5% โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนจะมาจากเงินบาทอ่อนค่าลง (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ 31.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3/2563 จาก 30.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส3/2562) รวมไปถึงราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนลดลง ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีแรก 2563 ออกมาดีที่ 24.4% และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จึงน่าจะเป็นไปตามสมมติฐานของที่ 22.5% โดยยังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 เอาไว้ที่ 16.50 บาท เนื่องจากผลประกอบการยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X