> KS Whole in one >

26 ตุลาคม 2020 เวลา 06:40 น.

Debate รอบสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง จับตาเนื้อหา “นโยบายต่างประเทศ”

- วันจันทร์ติดตาม ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)สหรัฐ ตลาดคาด 1,000K, ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานธนาคารกลางญี่ปุ่น (ปีต่อปี)


- วันอังคารติดตาม กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน (ปีต่อปี) (ก.ย.), ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)สหรัฐ ตลาดคาด 0.4%, รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer Confidence) ( ต.ค.)สหรัฐ ตลาดคาด 102.8


- วันพุธติดตามรายงานสินค้าคงเหลือของน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API, สินค้าคงคลังในกิจการค้าปลีกไม่รวมธุรกิจยานยนต์ (ก.ย.)สหรัฐ


- วันพฤหัสติดตามดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)สหรัฐ ตลาดคาด 32.5%, แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB, การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( ต.ค.), ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)สหรัฐ ตลาดคาด3.4%


- วันศุกร์ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ต.ค.) EUตลาดคาด -0.2%


จับตาการดีเบตครั้งสุดท้ายระหว่าง Trump และ Biden ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ซึ่งในระหว่าง 90 นาที ของการดีเบตจะแบ่งเป็นคำถาม 6 ช่วง นำโดยเรื่อง COVID-19 ซึ่งเราคาดว่าจะมีการพูดถึงรายละเอียดและพัฒนาการของ Vaccine, การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งเราคาดว่า Biden จะพูดถึงแผนการนำประเทศสหรัฐกลับเข้าไปใน Paris agreement 


รวมถึงนโยบายลดโลกร้อน (Global warming , Green energy), นโยบายต่างประเทศ (จีน, ตะวันออกกลาง) รวมถึงแผนการขึ้นภาษีนิติบุคคลและค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงการเคลื่อนไหวของเม็ดเงินพอสมควร เราคาดว่านักลงทุนจะได้รับฟังเนื้อหารายละเอียดของนโยบายของ Biden มากขึ้นเมื่อเทียบกับการดีเบตในครั้งแรก เนื่องจากรอบนี้กรรมการจะสั่งปิดไมค์ระหว่างที่อีกฝั่งแถลง 


ล่าสุดก่อนการดีเบต RealClear Politics ยังให้ Biden นำอยู่ประมาณ 9 คะแนน (51: 42.5) โดยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มเห็น sector rotation และการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์สอดคล้องกับโพลที่ Biden เริ่มทิ้งห่างมากขึ้น ซึ่งเราประเมินว่ากลุ่มที่จะได้รับผลกระทบต่อการปรับขึ้นภาษีสูงสุดนั่นคือ กลุ่มเทคโนโลยี (10-11%) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น S&P (8%) ใน 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เราประเมินโอกาสน้อยที่ Trump จะสามารถพลิกมาชนะ 


อย่างไรก็ตาม 2 สิ่งที่อาจทำให้ส่วนต่างแคบลงอาจเหลือเพียงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ (Stimulus package bill) ที่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุปจากฝั่ง Democrat รวมถึงวัคซีน ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่คาดว่าจะสามารถแถลงผลการทดลองวัคซีนระยะสามก่อนคือ Modernaในเดือนพ.ย. ฉะนั้นหากอิงจากนโยบายของ Biden บนเงื่อนไข Democrat ครองเสียงส่วนมากทั้ง 2สภา และ Biden ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เราคาดว่าอาจเห็น Flow บางส่วนไหลเข้ามายังฝั่งเอเชีย (MSCI Asia Pacific) และอิงจากสถิตินับตั้งแต่ปี 1980 กลุ่ม Value มักจะ Outperform กลุ่ม Growth ในช่วง 6เดือนหลังจากการเลือกตั้งเฉลี่ย 3.5% ซึ่งเราคาดหวังในลักษณะสอดคล้องกับสถิติในปีนี้


สำหรับหุ้นไทยเราเริ่มมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกลุ่มธนาคาร ภายหลังงบ 3Q20 เริ่มทยอยประกาศ ซึ่งส่วนมากกำไรจากการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด ปัจจัยภายในประเทศล่าสุดปรับดีขึ้น จากการเปิดประชุมสภาในสัปดาห์หน้า และความน่าจะเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นเราคาดว่าทิศทางของตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของเดือนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังกล่าวเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำเราแนะเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม Domestic play หันสะสมกลุ่มโภคภัณฑ์อย่าง STA และสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (TISCO, BBL)


ภาพตลาดหุ้นในกรณีเลวร้ายเราประเมินแนวรับระดับ 1,140 จุด อย่างไรก็ตามหากการชุมนุมไม่ยืดเยื้อและหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญส่งผลให้การชุมนุมลดความร้อนแรงลง เราคาดว่าแนวรับ SET จะอยู่เหนือ 1,200 จุด ขึ้นไป สำหรับกลุทธ์การลงทุน เรายังไม่แนะนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้ โดยนอกเหนือจากปัจจัยการเมืองไทยแล้ว แนะรอดูผลการเลือกตั้งสหรัฐหลังวันที่ 3 พ.ย. เพื่อจัดพอร์ตการลงทุนใหม่รับปี 2021 เป็นต้นไป 


เบื้องต้นหากว่า Biden ขนะการเลือกตั้งและ Democrat สามารถครองเสียงส่วนมากในสภาได้ บนสมมติฐานการเมืองไทยไม่ปะทุ เราคาดว่าจะเห็น Fund flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วง 1Q21 และมีโอกาสที่ SET จะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุด ซึ่งเราแนะทยอยสะสม 1) กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และเดินเรือที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึง Sentiment บวกต่อการเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าแนะ PSL, TVO, STA 2) กลุ่ม Value ที่ปัจจุบัน Laggard นำโดย TISCO AEONTS และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่คาดได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่อยู่ในระดับต่ำ GULF BGRIM


มุมมองตลาดหุ้น สัปดาห์หน้าคาด SET แกว่งในกรอบ 1,185-1,240จุด

BBL พื้นฐาน 124 บาท

AEONTSพื้นฐาน 159 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X