> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ >

24 ตุลาคม 2020 เวลา 10:00 น.

มาเริ่มเก็บของกันครับ

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ตลาดหุ้นไทยบ้านเรายังปรับลงมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาพรวมของการลงทุนที่ยังขาด sentiment ใหม่เข้ามาสนับสนุน และยังมีความไม่แน่นอนของมาตรการพยุงเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯที่ยังมีข้อขัดแย้งระหว่างคองเกรสและทำเนียบขาว รวมไปถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในบางพื้นที่ กดดัน SET ให้ปรับตัวลงมาใกล้บริเวณ 1200 จุด


ในด้านมุมมองผมนั้น อยากเตือนสติท่านนักลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงเวลานี้ว่าไม่ควรถอดใจนะครับ แต่ให้ใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้น เพื่อการลงทุนอีกครั้ง หรือพูดง่ายๆว่า ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาของการเก็บของแล้วครับ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่เวลาในการล้างพอร์ตลงทุนนะครับ


ซึ่งจากการคาดการณ์แนวโน้ม SET ของผมนั้น มองว่าดัชนีที่ต่ำกว่า 1200 จุด จะเริ่มมี downside ที่จำกัด หรือมีแนวรับหลักถัดไปไม่ไกลนักอยู่ที่ 1150-1160 จุด และผมคาดว่า แนวโน้ม SET จะเริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นปรับตัวขึ้นได้ในช่วงกลางเดือนพ.ย. โดยเหตุผลที่สนับสนุนการคาดการณ์ของผม มีดังต่อไปนี้


1) SET ที่ต่ำกว่า 1200 จุด หรือที่บริเวณ 1150-1160 จุด จะเริ่มมีมูลค่าที่สมเหตุสมผล โดยคิดเป็น P/E ประมาณ 15-16 เท่า (อิงกำไรตลาดปีหน้า) เทียบเท่าค่าเฉลี่ยแล้ว


2) วัคซีนต้าน COVID-19 คาดว่าจะเริ่มออกมาใช้ได้ในช่วงปลายปี โดย CEO ของ Pfizer ยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลวัคซีนภายในเดือนต.ค.และยื่นขอ EUA ในเดือนพ.ย. ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าแรกที่ได้รับการอนุมัติ


3) หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเสร็จสิ้นลง ไม่ว่านายทรัมป์ หรือ นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง คาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านการคลังชุดใหม่เข้ามาเพิ่ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นได้

ดังนั้น ด้านกลยุทธ์การลงทุนให้ใช้โอกาสนี้ เก็บหุ้นเข้าพอร์ตแล้วนะครับ โดยแบ่งเป็น 2 ไม้ ที่ 1200 และ 1150-1160 จุด ตามลำดับ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ อยู่ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้  1) หุ้น defensive ที่มีคุณภาพสูง และ Valuation ไม่แพง เช่น BAM, BDMS, CBG, EGCO, GFPT, SCCC, CPF  2) หุ้นที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรเศรษฐกิจในประเทศที่มีคุณภาพดี เช่น AP, TOP, PTT  และ 3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น HRMPO, CRC, ILM, COM7


โดยผมได้เลือกชุดหุ้นที่น่าสนใจ 5 ตัวซึ่งอยู่ใน 3 ธีมหลักดังกล่าวมาซึ่งได้หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่


1) BAM คาดกำไรฟื้นตัวอย่างรวดเร็วใน 2H63 และปี 2564 หนุนจากการขาย NPA และการแก้ปัญหา NPL ได้มากขึ้น มีโอกาสซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ในราคาที่ถูกลง ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.3%


2) BDMS คาดกำไรสุทธิ 2H63 จะเติบโต +20% HoH จากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่ถูกอั้นไว้ มี upside จากจำนวนผู้ป่วยชาวจีนที่จะเพิ่มขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง BDMS กับ Ping An Health


3) SCCC คาดกำไร 3Q63 ลดลง YoY จากการปิดซ่อมบำรุงเตาเผาปูน 2 เตา ส่วน 4Q63 อาจมีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ซึ่งมักทบทวนช่วงปลายปี แต่ไม่กระทบกระแสเงินสดและเงินปันผลทั้งปี พื้นฐานยังแข็งแกร่ง


4) TOP ต้นทุนเงินสดที่แข่งขันได้เป็นเกราะป้องกันผลกระทบจากโควิด-19, มาตรการควบคุมต้นทุนเพิ่ม, กำไรจากการขายหุ้น GPSC ช่วยชดเชยขาดทุนสินค้าคงคลัง, งบดุลแข็งแรง


5) CRC ได้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีช้อปปิ้ง ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 3Q63 คาดโต QoQ จากการผ่อนคลาย lockdown และ 4Q63 จำนวนผู้มาใช้บริการกลับมาเป็นปกติ..และพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ ด้วยรักและหวังดี

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X