> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ >

21 ตุลาคม 2020 เวลา 10:25 น.

จับจังหวะ Short หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง

ประเด็นสุดฮอตในเวลานี้ คงไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่อง “การเมืองในประเทศ” หากท่านติดตามข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว ท่านจะพบว่าการเมืองมีความเข้มข้นขึ้นและมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเราสรุป Timeline ของเหตุการณ์ และการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET ตั้งแต่วันที่ 14-16 ต.ค. 63 ได้ดังนี้


14 ต.ค. 63กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนตัวไปบริเวณทำเนียบรัฐบาล มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายในระหว่างที่มีการชุมนุม ส่งผลให้ดัชนี SET ลดลง -9.44 จุด


15 ต.ค. 63เวลาประมาณ 4.00 น. รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงใน กทม. และทำการสลายการชุมนุมในเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมมีการนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้ง บริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ด้านดัชนี SET ลดลงถึง -21.03 จุดรับข่าวการเมืองในประเทศ ผสมกับ Sentiment ลบจากการระบาดของ COVID-19 ในยุโรป


16 ต.ค. 63 กลุ่มผู้ชุมนุมมีการรวมตัวกันบริเวณแยกปทุมวัน ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลดลงกดดันดัชนี SET ให้ลดลง -9.28 จุด ก่อนจะมีเข้าการสลายการชุมนุมในช่วงค่ำของวันดังกล่าว


นอกจากนี้ ในวันที่ 17-18 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกมารวมตัวกันอีกครั้ง ตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ห้าแยกลาดพร้าว, วงเวียนใหญ่, และอีกหลายแห่งที่เราไม่ได้พูดถึง ทำให้ช่วงเปิดตลาดของเช้าวันจันทร์ที่ 19 .ต.ค 63 SET เปิดลดลงราว -10 จุด และปิดตลาดที่ 1,208.75 จุด ลดลง -24.93 จุด หรือ -2.02% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า


สิ่งที่เราต้องการจะบอกกับนักลงทุนผ่านบทความนี้ก็คือ การเมืองมีผลต่อตลาดหุ้นและมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน หมายความว่าหากการเมืองมีความแน่อน ตลาดหุ้นก็มีแนวโน้มดี ในทางกลับกัน หากการเมืองมีความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นก็มีแนวโน้มไม่ดีตามไปด้วย...คราวนี้ มาวิเคราะห์หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเมืองกันว่ามีหุ้นกลุ่มใดบ้าง และเรามีคำแนะนำอย่างไร


กลุ่มห้างสรรพสินค้า

หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง ในแง่ของการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากการชุมนุมที่มีการปิดพื้นที่บางส่วนของ กทม. ทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หรือหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีการชุมนุมหนาแน่น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยมีโอกาสลดลง ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าได้รับผลกระทบเชิงลบไปบ้างแล้ว ทั้ง CPN ที่ลดลง -3% และ BJC ที่ลดลง -2.25% ในวันศุกร์ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม เราให้คำแนะนำ Short ทั้ง BJC และ CPN เนื่องจาก แนวโน้มราคาหุ้นเป็นขาลง และปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีทางออก รวมถึงผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งแน่นอนว่าจะสะท้อนผ่านผลการดำเนินงาน Q3/63 ที่กำลังจะประกาศเร็วๆนี้


กลุ่มการขนส่ง

โดยปกติหุ้นกลุ่มขนส่งควรได้รับประโยชน์ เนื่องจากการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆจำเป็นต้องใช้รถโดยสารสาธารณะ หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยอดผู้ใช้บริการรถโดยสารเหล่านี้ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าบริษัทขนส่งเหล่านี้ ปิดให้บริการในขณะที่ผู้ชุมนุมจำนวนมากมีความต้องการใช้รถโดยสาร ย่อมเป็นผลกระทบเชิงลบ เนื่องจากบริษัทสูญเสียรายได้ อีกทั้งยังกระทบต่อผู้ใช้บริการท่านอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมด้วย ทำให้เกิด Sentiment เชิงลบต่อ BEM และ BTS ในเช้าวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ การเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอน การรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากกลุ่มการขนส่งเลือกที่จะปิดให้บริการในขณะที่มีความต้องการใช้บริการจำนวนมาก เราแนะนำให้ Wait & See ในฝั่ง Short ไว้เบื้องต้น เนื่องจากราคาหุ้นร่วงรับข่าวไปก่อนแล้ว แต่ด้วยแนวโน้มที่เป็นขาลง ทำให้การเปิด Short มีความได้เปรียบมากกว่า


กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-สายการบิน

กลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรมและสายการบินได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ด้วยเหตุผลคล้ายกับกลุ่มห้างสรรพสินค้า เพราะการชุมนุมทางการเมือง มีการปิดสถานที่สำคัญหลายแห่งทั้งใน กทม. และบางพื้นที่ในต่างจังหวัด ซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทำให้ความต้องการออกไปท่องเที่ยวมีแนวโน้มลดลงไปด้วย จึงเป็นผลกระทบทางอ้อมต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โดยเราพบว่าหุ้นกลุ่มสายการบิน เช่น AOT, AAV และ BA รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงแรม เช่น CENTEL, ERW และ MINT มีการปรับตัวลดลงในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนปัจจัยลบทางการเมืองนั่นเอง


ทั้ง 3 กลุ่มที่เราวิเคราะห์กันไปนั้น เป็นเพียงตัวอย่างที่ได้รับผลกระทบเชิงลบทั้งทางตรงและทางอ้อม ในความเป็นจริง อาจมีหุ้นหรือธุรกิจอื่นๆที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น หากนักลงทุนกำลังให้ความสนใจหุ้นตัวใด อย่าลืมให้ความสำคัญในการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองด้วย ว่ามีผลกระทบต่อหุ้นที่ท่านสนใจหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน และทำให้ชะลอการตัดสินใจลงทุนของท่านออกไปได้


อย่างไรก็ตาม หากอุณหภูมิของสถานการณ์การเมืองลดลง หรือมีท่าทีอ่อนลง จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อหุ้นเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนอาจต้องปรับกลยุทธ์เมื่อการเมืองเป็นบวกมากขึ้น เช่น การปิด Short ทำกำไร หรือการกด Stop Loss ลงมาเพื่อลดการขาดทุน และทำให้มีกำไรจากสถานะ Short ได้มากขึ้น แล้ว Wait & See ดูสถานการณ์การเมืองว่าเป็นอย่างไร เพื่อกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายอีกครั้ง


ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X