ทันหุ้น - MICRO ฉายแววผลงานไตรมาส 4/2563 โตต่อเนื่องไม่หวั่นแม้มีพายุฝนเข้า มองความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 ขยายตัว พร้อมเร่งเครื่องขยายดีลเลอร์ต่างจังหวัดเพิ่ม หวังเติมลูกค้ารายใหม่เข้าพอร์ต มองยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังขยายตัวได้ต่อ หนุนทั้งปี 2563 พอร์ตสินเชื่อคงค้างเติบโต 23% มั่นใจคุม NPL สิ้นปีนี้ต่ำ 3% ได้

นายวินิตย์ ปิยะเมธาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เชื่อว่าจะมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีบัญชีลูกหนี้จำนวน 4,045 สัญญา และมียอดลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อคงเหลือ จำนวน 2,140.7 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงเดือนตุลาคมจะมาพายุฝนเข้ามาเป็นบางช่วง แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้

*เข้าไฮซีซัน

อีกทั้ง ในช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นไฮซีซันธุรกิจเนื่องจากจะมีการเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร รวมไปถึงการขยายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้จะมีความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าจะมีสินเชื่อรถบรรทุกเข้ามาสูงกว่าครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการตรวจสอบและคัดเลือกผู้กู้อย่างต่อเนื่องโดยจะมีเกณฑ์การพิจารณาจากแนวโน้มของธุรกิจเป็นเช่นไร มีทิศทางการเติบโตมากน้อยเพียงใด สายป่านของการทำธุรกิจยาวหรือไม่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ในอนาคต

อย่างไรก็ตามคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2563 อาจลดลงจากเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากการเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเป็นวงกว้างในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่มากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิด NPL ในอนาคต ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่ออาจมีการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยที่ 23% หรือมีมูลหนี้คงค้างในพอร์ตที่ 2,400-2,500 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ที่มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 2,140 ล้านบาท ขณะที่ NPL สิ้นปีนี้เชื่อว่าจะต่ำกว่า 3% จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ระดับ 2.7%

**เดินเกมตามแผน

ภาพรวมธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองในประเทศไทยเชื่อว่าจากนี้ไปจะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดรถบรรทุกมือสองยังคงมีความต้องการสูงสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของการขนส่งสินค้าภาคพื้นดิน

สะท้อนต่อโอกาสในการเติบโตในอนาคตยังมีอีกมาก ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายจะมีมาร์เก็ตแชร์ให้ปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่าตลาดรวม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดรถบรรทุกมือสองเป็นหลักเนื่องจากมองว่าให้มาร์จิ้นที่ดีกว่า ซึ่งในปัจจุบันให้ NIM อยู่ที่ 13.7% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 30% เชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับนี้ได้ในอนาคต

ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี ในระยะ 2-3 ปีจากนี้ (2563-65) และวางเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ไม่น้อยกว่าปีละ 2,500 ล้านบาทต่อปี หรือมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 208-210 ล้านบาทต่อเดือน

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2564-65 คาดจะเพิ่มเป็น 16 สาขา และ 20 สาขา ตามลำดับ จากสิ้นปี 2563 ที่มีจำนวน 12 สาขา ทั้งนี้ การขยายสาขาใหม่บริษัทจะมุ่งเน้นไปในจังหวัดที่มีการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสูง หรือในพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสองจำนวนมาก เช่น ภาคกลางและภาคตะวันออก เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 4 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายในการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อให้เติบโตแตะ 3,000-4,000 ล้านบาท ในปี 2564 และจะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2565