> SET >

19 ตุลาคม 2020 เวลา 09:44 น.

5 ปัจจัยกดดัน SET พร้อมกันสัปดาห์นี้ โบรกแนะถือเงินสดเพิ่ม หลบเข้าหุ้นปันผล-Global Play

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เอเชีย พลัส หรือ ASPS ฝ่ายวิจัยฯ ได้แนะนำ 5 ปัจจัยเสี่ยง ที่จะกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน ต.ค. นี้ โดยทั้ง 5 ปัจจัยได้ทำงานพร้อมกัน คือ COVID-19 ทั่วโลกยังระบาดแรงจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม(Total Case) ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจนเกือบแตะระดับ 40 ล้านรายโดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่(New Case) ในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอาทิ


-สหรัฐล่าสุดวันศุกร์ เพิ่มขึ้น 6.92 หมื่นรายสูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังที่ 5.5 หมื่นราย และแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนยุโรป คือ ฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อใหม่ 32,427 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังที่ 20,558ราย,


-ไทยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวม 5 รายเป็นชาวเมียนมาร์ใน อ.แม่สอด จ. ตาก ทำให้ผู้ว่าฯ จังหวัดตากมีคำสั่งLockdown หมู่บ้านที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 หมู่บ้าน รวมถึงระงับการนำเข้า- ส่งออกสินค้า ณ จุดผ่านแดนแนวชายแดนจังหวัดตาก-เมียนมาร์ ตั้งแต่วันที่ 18-25 ต.ค. 2563  โดยรวมประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ดังกล่าว เชื่อว่าจะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และสร้าง Sentiment เชิงลบต่ตลาดหุ้นโลก และตลาดหุ้นไทยต่อไป แต่มีโอกาสช่วยสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นบางกลุ่ม เช่น STGT, STA และ NER


การเมืองสหรัฐเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายโดยสถิติที่เคยนำเสนอ คือ 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ ตลาดหุ้นทั้งสหรัฐและไทยจะผันผวน โดยปรับตัวลดลงเฉลี่ย 4.1%และ 7.5% ตามลำดับ แต่มักจะดีดตัวกลับขึ้นมาช่วง 1 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งเสมอ โดยให้ผลตอบแทนบวกเฉลี่ย 2.9% และ 5.8% ตามลำดับ (ส่วนปีนี้ผลตอบแทนตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นเดือน-ปัจจุบัน(mtd) พบว่าS&P500 ปรับเพิ่มขึ้น 3.6% แต่ SET Index ปรับลดลง 0.32%) ดังรูป


ASPS ประเมินว่าสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐและไทยจะยังผันผวนต่อ โดยให้น้ำหนักวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.การ Debate รอบสุดท้ายระหว่าง ปธน.Trump และ นาย Joe Biden จะเป็นอย่างไร ล่าสุด Poll ใน Bloomberg นาย Joe Biden คะแนนยังนำ 51.3% นาย Trump 42.4%

การตบเท้าเข้ามาของหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SCGP ในสัปดาห์นี้ (22 ต.ค. 2563) เป็นส่วนหนึ่งที่กดดันหุ้นขนาดใหญ่ให้ Underperform ตลาดต่อ เนื่องจากยังมีบางกองทุนต้องเตรียมเงินซื้อหุ้นดังกล่าว เพื่อปรับน้ำหนักพอร์ต เนื่องจากไม่ได้จองซื้อผ่าน Cornerstoneโดยเฉพาะกองทุนประเภท Passive Fund


ตลาดปรับกฎให้นักลงทุนกลับมา Short Sales ได้ตามปกติในเดือน ต.ค. นี้โดยล่าสุดปริมาณการ Short Sales ในเดือน ต.ค. เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 พันล้านบาทต่อวัน (ตอนที่ตลาดใช้กฎ Up tick rule ปริมาณการ Short Sales เฉลี่ยไม่ถึง 7 ร้อยล้านบาทต่อวัน) และยิ่งมีปัจจัยรอบด้านเข้ามากระทบ ทำให้ปริมาณการ Short Sales มีโอกาสเร่งตัวขึ้น


การเมืองไทยเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ตลาดน่าจะให้ความสำคัญมากสุด เนื่องจากการเมืองถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเวลาเกิดความเสี่ยงดังกล่าวค่าเงินบาทมักอ่อนค่า Fund Flow ไหลออก และกดดันตลาดหุ้นให้ปรับลงเสมอ และช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นไปตามนั้น คือ ค่างเนบาทอ่อนค่า 0.65%, Fund Flow ต่างชาติไหลออกตลาดหุ้นไทย 4.1 พันล้านบาท กดดัน SET Index ลดลง 2.64% ขณะเดียวกัน Credit Spread (CDS) มีการเร่งตัวขึ้นมาเร็วกว่า 3 bps. อยู่ที่ 45 bps. ขณะที่ปัจจุบันการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกยังคงยืดเยื้อ และมีการขยายตัวไปทั่วประเทศ ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้ง 5 ปัจจัย ยังรุมเร้าและกดดันตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนตอนนี้แนะนำถือเงินสด 35% ของพอร์ตการลงทุน ส่วนอีก 65% เน้นลงทุนในหุ้นปันผลสูง DCC, JMART, MCS รวมถึงหุ้น Global Play อย่าง TU, PTTGC เป็นต้น โดยวันนี้เลือก TU, PTTGC เป็น Toppicks


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X