> SET > KTC

16 ตุลาคม 2020 เวลา 14:08 น.

KTC โบรกชี้กำไร Q4/63 ฟื้นตัวต่อ คาดเร่งขยายธุรกิจใหม่มากขึ้น

ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง KTC ว่า KTC รายงานกำไร 3Q63 จำนวน 1,221 ลบ. ฟื้นตัว 6.2%QoQ แม้ PPOP ยังอ่อนตัวจากผลของเพดานดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่ปัจจัยลบดังกล่าวถูกชดเชยด้วยนโยบายตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง สอดคล้องกับ NPL ที่ลดลงเหลือ 1.9% และ Coverage Ratio ที่กลับมาอยู่ในระดับ 452%


ทั้งนี้คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสุทธิต่อเนื่องใน 4Q63 และคาดเห็นการเร่งขยายธุรกิจใหม่มากขึ้นเพื่อชดเชย Asset Yield ของธุรกิจสินเชื่อไม่มีหลักประกันที่ลดลง ขณะที่ราคาหุ้นยังมี Upside 14.7% หลังปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 43 บาท (วิธี GGM) จึงคงคำแนะนำ ซื้อ


KTC รายงานกำไรสุทธิใน 3Q63 จำนวน 1,221 ลบ. ลดลง 5.5%YoY แต่เพิ่มขึ้น 6.2%QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย โดยแม้กำไรก่อนการตั้งสำรองและภาษี (PPOP before tax) ลดลง 8.4%QoQ หลังถูกกดดันจากทั้ง 1)NIM แคบลงเหลือ 15.2% จาก 15.7% ใน 2Q63 หลังเริ่มได้รับผลกระทบจากเพดานดอกเบี้ยใหม่ของทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล (ลดลง 3%) และสินเชื่อบัตรเครดิต (ลดลง 2%) กดดัน Asset Yield ให้ลดลงราว 0.5% จากไตรมาสก่อน


2) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 3.5%QoQ หลักๆ มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงตามยอดลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ปรับตัวลง และ 3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 19.4%QoQ หลังเริ่มกลับมาใช้งบทางการตลาดมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดจับจ่ายของลูกค้าในช่วงที่ Lock Down โดยเฉพาะหมวดประกัน, Online Shopping และความสวยความงาม เพื่อเร่งยอดใช้จ่ายชดเชยหมวดการท่องเที่ยวที่ลดลงมาก


อย่างไรก็ดีบริษัทมีการผ่อนคลายนโยบายตั้งสำรองลง ทำให้ Credit Cost ลดลงเหลือ 8.3% จาก 10.1% ใน 2Q63 ให้สอดคล้องกับจำนวน NPL ที่ลดลงมากจาก 6.7% เหลือ 1.9% หลังปรับปรุงเกณฑ์การตัดหนี้สูญตาม TFRS9 ให้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมมากขึ้น (เดิมต้องรอพิสูจน์ความสามารถในการจ่ายของลูกหนี้ 24 เดือนถึงจะตัดหนี้สูญได้ แต่ตั้งแต่ 3Q63 จะลดระยะเวลาดังกล่าวเหลือ 6 เดือน ทำให้การตัดหนี้สูญเกิดเร็วขึ้น) รวมทั้งมีการใช้สิทธิในการชะลอการปรับชั้นลูกหนี้ตามนโยบายของ ธปท. ส่งผลให้ Coverage Ratio ของ KTC ฟื้นตัวกลับมาที่ 452% จาก 157.5% ใน 2Q63


กำไร 9M63 คิดเป็น 74.8% ของประมาณการทั้งปี และเรายังคงประมาณการเดิม โดยคาด 4Q63 แม้กำไรจากการดำเนินงานคาดปรับลงเล็กน้อย จากการรับรู้ผลของเพดานดอกเบี้ยใหม่เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก แต่บางส่วนจะถูกชดเชยด้วยการเติบโตของยอดการจับจ่ายและยอดขอสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มดีขึ้นตาม Seasonal ของการจับจ่ายภาคครัวเรือนในช่วงปลายปี และมีปัจจัยหนุนจากการชะลอการปรับชั้นลูกหนี้ที่ยังไม่ตกเป็น NPL ตามเกณฑ์ของ ธปท. ทำให้คาด NPL จะไม่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีเราจึงคาดกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 5,363 ลบ. ลดลง 2.9%YoY


ทางฝ่ายยังชอบ KTC จากแนวโน้มกำไรที่จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นหลังผ่อนคลายนโยบายตั้งสำรอง ขณะที่ผลลบจากเพดานใหม่คาดเป็นปัจจัยให้บริษัทเร่งแผนการขยายธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (KTC พี่เบิ้ม) ให้เร็วขึ้นเพื่อชดเชย Yield ที่ต่ำลงจากธุรกิจสินเชื่อไม่มีหลักประกัน นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันของ KTC ยังมี Upside ราว 14.7% หลังปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 43 บาท (วิธี GGM) เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X