> SET > GULF

08 ตุลาคม 2020 เวลา 08:00 น.

GULFชิงเค้กโซลาร์รูฟ INTUCHมีปันผล900ล.

ทันหุ้น –สู้โควิด –GULF ทุ่ม 1.9 หมื่นล้านบาทเก็บหุ้น INTUCH ตามนัด 10% มองเป็นการลงทุนระยะยาว หวังรับปันผลปีละ 800-900ล้านบาท ด้าน INTUCH เผยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ล่าสุด GULF ตั้งบริษัทย่อย “กัลฟ์ 1” รุกธุรกิจโซลาร์รูปท็อป ตั้งเป้าติดตั้ง 300 เมกะวัตต์ ในปี 2564 โกยรายได้ 1,000 ล้านบาท หนุนการเติบโตระยะยาว


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 บริษัทได้เข้าถือหุ้นในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) หรือ INTUCH เป็นจำนวน 320.65 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ INTUCH


ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการก่อนหน้านี้ ที่อนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนได้ไม่เกิน 10% ภายในวงเงิน 19,000 ล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้าผลตอบแทนจากเงินปันผลให้แก่บริษัท โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับเงินปันผลจากการเข้าลงทุนใน INTUCH ปีละ 800-900 ล้านบาท


ด้าน INTUCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นว่า ยังไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุม ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจ ของบริษัทแต่อย่างใด โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น หลังจาก GULF เข้ามาถือหุ้นเพิ่มเป็น 10% จากเดิมที่ถือในสัดส่วน 7.99%


*รุกโซลาร์รูฟเป้า 300 MW


นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท GULF ยังได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ 1 จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100ล้านบาท โดย GULF ถือหุ้น 99.99%เพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ เช่น โซลาร์ฟาร์ม รวมถึงโซลาร์รูฟท็อป และการให้บริการบำรุงรักษาระบบพลังงานแบบครบวงจร


สำหรับการตั้งบริษัทย่อยดังกล่าว สืบเนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เดินหน้าลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน โดยเน้นการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทเห็นถึงโอกาสในการทำธุรกิจโซลาร์ในประเทศไทยด้วยการลงทุนในโครงการโซลาร์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ กัลฟ์ 1 ตั้งเป้าที่จะลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับลูกค้าไม่ต่ำกว่า 300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564 มูลค่าลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท หากเป็นไปตามเป้าจะสามารถสร้างรายใด้ให้กับกลุ่มกัลฟ์ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และยังเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้กับกลุ่มกัลฟ์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากกัลฟ์มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ จึงสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


*เคาะพื้นฐาน 48 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง GULF ว่า มองว่าการตัดสินใจซื้อหุ้น INTUCH ของ GULF เป็นกลยุทธ์ที่ดีในการเสริมสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิในระยะยาวและวางบริษัทไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมก่อนคู่แข่งในกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูลตลาดอุตสาหกรรมมาเป็นดิจิทัลที่กำลังจะเกิดขึ้น


ในทางกลยุทธ์มองว่า GULF สามารถใช้ระบบข้อมูลกลาง (Big Data) ของ ADVANC จากฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ 41 ล้านราย (ส่วนแบ่งตลาด 45% ในประเทศไทย) และฐานลูกค้าอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายความเร็วสูง (Broadband subscribers) 1.2 ล้านราย เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักสาหรับโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อการส่งไฟฟ้าและบริการสาธารณูปโภค (Smart Grid and Smart Utilities Network) โดยใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ในด้านพลังงานและสาธารณูปโภคในอนาคตของ GULF ที่มีอยู่อย่างครบครัน


อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรสุทธิที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2564 จากการซื้อกิจการเมื่อไม่นานมานี้ ประกอบด้วยกำไรสุทธิ 1.2พันล้านบาท จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 450 เมกะวัตต์ ที่เปิดดำเนินงานแล้วในเยอรมนี และกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท จากธุรกิจนำเข้า LNG จะมากกว่ากาไรต่อหุ้น (EPS) ที่ลดลงจากการเพิ่มทุน 10% คาดว่าการเติบโตของ EPS ของ GULF จะยังอยู่ในระดับที่ดีโดยอยู่ที่ 81% ในปี 2564 หลังลดลง 7.5% ในปี 2563 จากผลกระทบของการเพิ่มทุนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ยังคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะโตได้ที่อัตรา 1.8% ในปี 2563 แนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 48 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X