สมาคมนักวิเคราะห์ เผยผลสำรวจดัชนีสูงสุดปีนี้เฉลี่ยที่ 1,347 จุด

ทันหุ้น-สู้โควิด : นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เผยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนต่อมุมมองในด้านการลงทุน และคาดการณ์ทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทยในไตรมาส 4/63 ว่า โดยมองดัชนีสูงสุดตลาดหุ้นไทยในช่วง ก.ค. ถึงสิ้นปี 2563 อยู่ที่ระดับ 1,347 จุด โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม 70.59% ที่คาดดัชนีจะทำจุดสูงสุด 1,301-1,400 จุด และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 23.53% คาดว่าจุดสูงสุดจะอยู่ในช่วง 1,201-1,300 จุด 

ส่วนคาดการณ์ดัชนีต่ำสุดระหว่างปีนับจากนี้มีค่าเฉลี่ยจุดต่ำสุดที่ 1,198 จุด โดยนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนคาดเป้าหมายดัชนี ณ วันสิ้นปี 2563 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,300 จุด ซึ่งน้อยกว่าผลสำรวจของไตรมาส 3/63 ซึ่งอยู่ที่ 1,383 จุด 

ทั้งนี้ผลสำรวจดังกล่าวมีผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 22 บริษัท แบ่งเป็นบล.16 บริษัท, บลจ.5 บริษัท และบริษัท โกลด์ ฟิวส์เจอร์ส 1 บริษัท 

ทั้งนี้มองว่าปัจจัยบวกที่มีต่อตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง ได้แก่มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของประเทศสำคัญทั่วโลก ผู้ตอบแบบสำรวจ 68.18% เทคะแนนให้อย่างชัดเจนว่าเป็นผลบวก รองลงมาได้แก่ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐหรือเฟด ผลสำรวจอยู่ที่ 54.55% ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ด้านการเมืองในประเทศ 100% รองลงมาได้แก่ ปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ เป็นปัจจัยที่มีเสียงโหวต 70% ขึ้นไป รองลงมาสถานการณ์โควิด-19 เศรษบกิจภายในประเทศ และ Fund Flow จากต่างประเทศสู่ตลาดหุ้นไทย 68.18% 

เป็นที่น่าสังเกตุว่าทิศทางดอกเบี้ยในประเทศนั้น ผู้โหวตส่วนใหญ่มองว่าไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในไตรมาส 4 โดยมีผู้โหวตเพียง 40.91% ที่มองว่าเป็นปัจจัยบวก แต่ไม่มีผู้ตอบที่มองแย้งว่าจะเป็นผลลบ 

ความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุน ได้แนะนำให้มีเงินสด 20% ของพอร์ต และมีกองทุนตราสารหนี้ 16% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น แนะนำให้แบ่งเงินลงทุนไว้ในหุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 21% รองลงมา ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 20% ตามมาด้วย การแบ่งเงินลงทุนไว้ในทองคำ 10% และกองทุนอสังหา/REIT สัดส่วน 10% ตามลำดับ

นายสมบัติ กล่าวว่า ด้าน EPS Growth ของงบปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ -37% เมื่อแยกตามช่วงระดับการเติบโต พบว่าอยู่ในช่วง -30 ถึง -39.99 มีผู้ตอบมากสุดถึง 66.67% นอกจากนี้ผลสำรวจคาดว่าจีดีพีในปีนี้ มีค่าเฉลี่ยการขยายตัวที่ -7.81% ส่วนในปี 2564 มองว่าเป็นบวกเฉลี่ยอยู่ที่ 3.91% 

สมาคมฯได้สอบถามความเห็นว่าภาครัฐควรเร่งนโยบายเรื่องใดที่มีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เสนอให้ภาครัฐใช้นโยบายการคลัง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้มีกำลังซื้อ 60% ของผู้ตอบ ได้แก่ ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ช่วยเหลือผู้ว่างงาน และกระตุ้นการบริโภคผ่านโครงการช้อปช่วยชาติ ฯลฯ และมีผู้ตอบ 35% ที่เสนอให้เร่งโครงการลงทุนภาครัฐ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน นอกเหนือจากข้อเสนอดังกล่าว

ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. พบว่านักวิเคราะห์ 81% คาดการณ์คงที่ในไตรมาส 4/63 และคาดว่าปรับลด 0.25% ที่ระดับ 19% 

สำหรับหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำ โดยมีจำนวนสำนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป ประกอบด้วย ADVANC, BDMS, CPALL และ HANA

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1