ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง GLOBAL ว่า แม้ SSSG ติดลบ แต่คาดว่ากำไร 3Q63 ของ GLOBAL ยังเป็นทิศทางขาขึ้นโดยเติบโตทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากการขยายสาขาช่วยชดเชยยอดขายสาขาเดิมที่ชะลอตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้า House brand เราเชื่อว่าผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาวจากการเปิดสาขาเชิงรุก และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง แนะนำ Trading Buy เมื่อราคาอ่อนตัว ราคาเป้าหมาย (DCF) 19.70 บาท

คาด SSSG 3Q63 ฟื้นตัวเป็น -5% จาก -20% ในช่วง 2Q63 จากการที่สาขากลับมาเปิดตามปกติหลังจากต้องปิดสาขาบางแห่งในช่วงล็อกดาวน์ GLOBAL ยังมีการเปิดสาขาใหม่ 5 แห่ง YoY ทำให้คาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 1% YoY อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มทรงตัวสูงที่ 23.3% ซึ่งเพิ่มขึ้น 228 bps YoY เนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง เช่น กลุ่มสินค้า DIY และสินค้า House brand เราจึงประเมินว่ากำไรสุทธิเติบโต 4% QoQ และ 20% YoY เป็น 526 ล้านบาท

GLOBAL มีโอกาสขยายสาขาได้อีกมาก เนื่องจาก Modern trade ยังมีสัดส่วนเพียง 30% ของตลาดวัสดุก่อสร้างและปรับปรุงบ้าน โดย GLOBAL มีเป้าหมายเปิดสาขา 9-10 สาขา/ปี ในช่วงปี 2564-2566 ซึ่งจะทำให้มีสาขารวมเกือบ 100 สาขาในปี 2566 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มสินค้า House brand จากปัจจุบันที่ 19% เป็น 25% ใน 3-5 ปีข้างหน้า อีกทั้งได้ประโยชน์จาก Economies of scale เพิ่มขึ้นจากการมีสาขาจำนวนมาก และต่อรองกับผู้ผลิต/ซัพพลายเออร์ได้ดีขึ้น นอกจากนั้น GLOBAL คาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นในกัมพูชาและเมียนมาร์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

GLOBAL ยึดแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยมีโครงการด้านการลดพลังงานซึ่งช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดค่าใช้จ่าย ประเด็นท้าทาย คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับทั้งลูกค้า และพนักงาน อีกทั้งการจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพ