ทันหุ้น – CCP เผยธุรกิจรับเหมาขาดแคลนแรงงาน ชี้เป็นโอกาสบริษัทขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป เผยปัจจุบันขยายฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น ส่วนการประมูลงาน โดยเฉพาะของภาครัฐยังเป็นความหวัง มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต 5-10% กำ Backlog 1,700 - 1,800 ล้านบาน ทยอยรับรู้ในช่วง 1 ปีครึ่ง

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ปริมาณงานในช่วงที่เหลือของปียังมีทยอยออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของงานภาครัฐ อาทิ โครงการเมกะโปรเจ็กต์ โครงการโครงสร้างพื้นฐานในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ที่จะเริ่มทยอยดำเนินงานก่อสร้าง และโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่จะกลับมามีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะงานนประเภทถนน ส่วนงานเอกชนถึงแม้จะมีชะลอตัวไปบ้างแต่บริษัทได้หันไปรับงานด้านงานนิคมอุตสาหกรรมที่มีงานก่อสร้างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจผู้รับเหมาขณะนี้ประสบปัญหาขาดเเคลนเเรงงาน โดยเฉพาะเมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แรงงานต่างด้าวบางส่วนกลับประเทศ ส่งผลต่อจำนวนแรงงานที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยดังกล่าวยังกระทบต่อต่อความเร็วของการทำงาน  ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่ล่าช้าก็ส่งผลให้การเริ่มโครงการก่อสร้างต่างๆ นั้นชะลอตามไปด้วย

ซึ่ง CCP มองว่าเป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป เช่น กลุ่มบล็อกกำแพง ล็อกกันหน้าดินบล็อกปูพื้นที่ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขณะเดียวกันยังลดต้นทุนธุรกิจให้สามารถทำงานสำเร็จลุล่วงได้เร็วด้วย

นายอาทิตย์  กล่าวอีกว่า สินค้าคอนกรีตผสมเสร็จมียอดขายที่ดีขึ้น  บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำกำไรได้สูง ในส่วนของเเผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลง โดยบริษัทยังเน้นลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปร่วมกับลูกค้า เเละการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนือง เพื่อรองรับงานโครงการต่างๆ

สำหรับรายได้ปีนี้บริษัทยังเชื่อว่าจะเติบโตที่ 5-10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,645.56 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิ 64.15 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,700 - 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมและไม่มกจนเกิดไป โดยบริษัทยังมีความสามารถเข้าไปรับงานที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มได้อีก ซึ่งBacklogของบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะ 1ปีครึ่ง ในช่วงที่เหลือ ไปจนถึงปีหน้าบริษัทยังเชื่อว่าจะมีงานเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้มีการทยอยประมูลงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด มองว่า  แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมยังคงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงด้านราคา เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกันน้อยในด้านของการใช้งานเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ แต่ CCPได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้นด้วยการ 

1) เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพสำหรับบริษัทซึ่งทำให้บริษัทมีอัตรากำไรที่สูงขึ้น (ประมาณ 10%) มากกว่ากลุ่มลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อที่มากแต่บริษัทได้รับอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่ามาก (ประมาณ 3-5%) 2) การใช้กลยุทธ์บริษัทจากการเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จเป็นการเน้นในส่วนงานการจัดการประสานงานกับบริษัทคู่ค้ามากขึ้น เพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมกับต้นทุนการขนส่งที่ลดลง ทำให้บริษัทสามารถทำการตลาดในเชิงรุกได้มากขึ้น