24 กันยายน 2020 เวลา 09:05 น.
ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ SET Index จะปรับตัวลงในกรอบ 1,250-1,260 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจากเม็ดเงินที่ยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงแรง ตลาดยังกังวลต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไปจากการระบาดของ COVID-19 ที่ยังรุนแรง แม้จะมีวัคซีนที่อยู่ในขั้นการทดสอบระยะที่ 3 ถึง 10 บริษัท ขณะที่ FED ยังเน้นยำว่าจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ จับตาการชุมนุมวันนี้ที่หน้ารัฐสภากดดันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ โดยรวมดัชนียังคงเปราะบางและผันผวนสูง จึงยังคงกลยุทธ์เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงกลุ่ม Defensive ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการจำเป็น เช่น อาหารเครื่องดื่ม โรงไฟฟ้า โรงพยาบาล อสังหาฯ โรงเรียน โดยเฉพาะที่ยังมี PE ต่ำ
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว Defensiveและมี Valuation ถูก//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มเติมบริเวณ 1,250+-
**บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง การติดเชื้อ Covid-19 รอบสองกลับไปที่ยุโรปอีกครั้ง ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวได้ช้าลง ปัจจัยในประเทศ กนง.ปรับ GDP ปีหน้าชะลอตัวลง จับตาการเคลื่อนไหวทางการเมืองในวันนี้ กลยุทธ์ ยังแนะให้ถือเงินสด หรือเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นของ Covid-19
สถานการณ์ Covid-19 ที่กลับไปติดเชื้อรอบสองในยุโรป และเริ่มมีการ lock down กันในบางประเทศ (อังกฤษ ฝรั่งเศส) จะทำให้ประเทศอื่นๆ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอีกครั้ง จะส่งผลตรงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (ท่องเที่ยว-ร้านอาหาร) อีกทั้งตลาดหุ้นยังให้ความสนใจ(กังวล) ต่อการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯในทางลบโดยประธาน Fed ส่วนการผลิตวัคซีน มีบางบริษัททยอยแจ้งความคืบหน้าในการทดลอง แต่อาจมีเรื่องที่ FDA เตรียมออกกฎเกณฑ์ที่จะเข้มงวดขึ้น อาจมีผลต่อการนำมาใช้ในวงกว้าง
สำหรับปัจจัยในประเทศ แม้การติดเชื้อ Covid-19 ในไทยจะค่อนข้างน้อย แต่การปิดประเทศ ส่งผลกระทบต่อ GDP โดย กนง.ปรับ GDP ปีนี้ติดลบน้อยลงจาก -8.1% เป็น -7.8% แต่ปีหน้าปรับลดลงจาก 5.0% เป็น 3.6% จากภาคการท่องเที่ยวและส่งออกที่ชะลอตัวลง เป็นสัญญาณลบต่อตลาดหุ้น เพราะ GDP ที่ฟื้นตัวช้า (ลบต่อหุ้นธนาคาร-ที่อยู่อาศัย) จะหมายถึงกำไรตลาดที่อาจจะฟื้นตัวช้าไปด้วย (ประมาณการเดิม เรามองกำไรตลาดปีหน้า +35% ; EPS ที่ 74 บาท ; เป้าดัชนีฯปีหน้า 1457 จุด) Event ที่สำคัญๆ กลุ่มผู้ชุมนุมจะรวมตัวกันหน้ารัฐสภาฯ มองว่าไม่น่ามีความกังวลเพิ่มขึ้นจากเรื่องนี้
Strategy
ตลาดยังมีความเสี่ยงจาก Covid-19 รอบสอง กระทบเศรษฐกิจโลก ทำให้การปรับไปถือเงินสดในมือให้มากขึ้น น่าจะปลอดภัยและลดความเสี่ยงของตลาด หรือเลือกเก็งกำไรช่วงสั้นๆ หุ้นได้ประโยชน์จาก Covid-19 ตัวที่อยู่นอก list ที่แนะนำ อาทิ TQM, FSMART, SYNEX, STGT แต่ควรเลี่ยงหุ้นที่อิงการท่องเที่ยวไปก่อน เช่น ธุรกิจการบินและโรงแรม วันนี้ คงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด พอร์ตหลัก BGC(10%), SMPC(10%), COM7(10%), MEGA(10%), NER (20%), JMT*(10%) ส่วนพอร์ต KTBST SET50 Skynet มี LH*(10%)
#Strategy top picks
BGC (เป้าเชิงกลยุทธ์ 15 บาท) – กลับมาสดใสจากการฟื้นตัวการบริโภค
- BGC เป็นผู้ผลิตขวด ลูกค้ารายหลักๆ คือกลุ่ม บุญรอด บริวเวอรี่ ภาพรวม 2H20 การฟื้นตัวของยอดขายแอลกอฮอล์ทยอยกลับมาใกล้ปกติ ยอดขายแก้วในเดือน ก.ค. พลิกกลับมาเป็นบวก +1% YoY
- ปีหน้า กลุ่ม “สิงห์” เล็งทุ่ม 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานใหม่รับไลน์ผลิตสินค้าเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล
Technical : SYNEX, PRM
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม