> SET > PSTC

23 กันยายน 2020 เวลา 09:30 น.

PSTCคืบหน้าท่อส่งน้ำมัน แบงก์ปล่อยกู้7.8พันล้าน

ทันหุ้น – สู้โควิด - PSTC ประกาศพร้อมเดินหน้าโครงการท่อส่งน้ำมันภาคอีสานตามแผน เผยสถาบันการเงินพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเต็มสูบ เซ็นปล่อยกู้วงเงินกว่า 7.8 พันล้านบาท คาดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไตรมาส 4/64 ตามแผน ฟากโบรกแนะ”ซื้อ” เคาะเป้า 2.04 บาท


นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทโดยถือหุ้นอยู่ 55.4% โดยร่วมทุนกับกลุ่ม EGCO Group ถือหุ้นสัดส่วน 44.6% ได้ลงนามในสัญญาสินเชื่อกับสถาบันการเงินโดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ China Development Bank ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 7,800 ล้านบาท ประกอบด้วยสินเชื่อเงินกู้ยืมระยะยาว จำนวนประมาณ 7,350 ล้านบาท และสินเชื่อระยะสั้นในวงเงินรวมไม่เกิน 450 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างคลังน้ำมันและลงทุนในโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีระยะเวลา 14 ปี


คืบหน้าท่อขนส่งน้ำมัน


ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 โครงการก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ TPN มีความคืบหน้าในการก่อสร้างกว่า 48.11% ของโครงการทั้งหมด


“การที่สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้กับบริษัทฯย่อยกว่า 7,800 ล้านบาท ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่น ถึงโครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/64"


บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำ “ซื้อ” PSTC ราคาเหมาะสม 2.04 บาท โดยปรับประมาณการปี 63 จากกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 1,027 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากค่าใช้จ่ายด้อยค่าและค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวรวม 1,096 ล้านบาท และปรับลดกำไรปกติจาก 98 ล้านบาท เหลือ 70 ล้านบาท จากผลกระทบของ COVID-19 ส่งผลให้ธุรกิจติดตั้งระบบไฟฟ้าและธุรกิจจำหน่าย LPG ปรับตัวลง และคาดว่ารายได้รวมจะลดลง 21.8% จาก 2.73 พันล้านบาทเหลือ 2.14 พันล้านบาท


เคาะราคา2.04บ.


ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Sum of the part(SOTP) โดยประเมินมูลค่าธุรกิจติดตั้งระบบไฟฟ้าและ LPG ด้วยวิธี P/E Ratio(Forward P/E ratio ที่ 10 เท่า) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าด้วยวิธี DCF (WACC 5.2% และ Growth 0% เนื่องจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีระยะเวลาสิ้นสุดที่ชัดเจนซึ่งจะทยอยครบอายุในปี 2579-2587) และธุรกิจท่อขนส่งน้ำมันด้วยวิธี DCF (WACC 4.0% และ Growth 0% เนื่องจากมีระยะเวลาสิ้นสุดสัมปทานในปี 2594) ได้ราคาเหมาะสมใหม่หลังปรับประมาณการปี 63 ที่ 2.04 บาทต่อหุ้นที่พาร์ 0.5 บาท


โดยปรับลดราคาเหมาะสมธุรกิจติดตั้งระบบไฟฟ้าและ LPG ลงจาก 0.40 บาทต่อหุ้นเหลือ 0.24 บาทต่อหุ้น คงราคาเหมาะสมธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ 0.65 บาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้อยค่าโรงไฟฟ้า 1,022 ล้านบาท ไม่กระทบต่อประมาณการกระแสเงินสด จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากราคาที่ประเมินได้สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน พร้อมคาดหวังอัตราเงินปันผลตอบแทนปี 63 และ 64 ที่ 0.62% และ 1.45% ต่อปีตามลำดับ

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X