ทันหุ้น –สู้โควิด - ATP30 ชี้ Q2 เป็นจุดต่ำสุด ส่งสัญญาณลูกค้าเริ่มกลับมาใช้บริการ ระบุรอนักท่องเที่ยวไหลกลับ พร้อมให้บริการทันที เชื่อเกาะพงันฟื้นเร็ว ฟากผู้บริหาร “ปิยะ เตชากูล” รับโควิด-19 ฉุดผลงาน แก้เกมลดต้นทุนคุมค่าใช้จ่าย รักษาระดับกำไร

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก(Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า บริษัทให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยว 2 ส่วน ได้แก่ การรับส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่มีแนวโน้มจะกลับมา ส่วนที่สองคือการให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปเกาะพงัน ซึ่งบริษัทดำเนินการร่วมกับบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP

รอนักท่องเที่ยว

บริษัทประเมินกลุ่มนักท่องเที่ยวเกาะพงัน มีแนวโน้มจะกลับมารวดเร็วกว่านักท่องเที่ยวชาวจีน และบริษัทเตรียมความพร้อมเรื่องรถบริการอย่างเต็มที่ หากนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาในไทยได้ ทั้งนี้บริษัทคาดหวังนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ในเร็ววัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ขณะที่ผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทยอมรับผลประกอบการปรับตัวลดลง เพราะได้รับการกดดันจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกดดันต่อกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมหลายเซกเตอร์ โดยลูกค้าของ ATP30 กระจายอยู่ในหลายเซกเตอร์ เช่น กลุ่มยานยนต์ เครื่องทอ และกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มที่ถูกกดดันและได้รับผลกระทบมากที่สุดคือชิ้นส่วนยายนต์ โดยลูกค้าได้หยุดโรงงาน และลดกำลังการผลิตลงในช่วงที่โควิด-19 ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ส่วนลูกค้าอุตสาหกรรมอื่นในบางอุตสาหกรรม ทำงานแบบ Work from home ทำให้จำนวนรถและเที่ยววิ่งรับส่งพนักงานปรับตัวลงไปบ้าง แต่ในขณะที่บางอุตสาหกรรมยังดำเนินการผลิตปกติ และใช้ Social distancing ทำให้จำนวนรถเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบปัจจัยบวกและปัจจัยลบรวมกัน ภาพรวมการดำเนินธุรกิจยังคงเดินหน้าไปได้ แม้ใน 6 เดือนแรกผลประกอบการจะปรับตัวลดลง แต่บริษัทจะเดินหน้าลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อผลักดันให้บริษัทมีมาร์จิ้น และผลประกอบการที่เป็นบวกหรือไม่ติดลบ ทั้งนี้บริษัทยังสามารถบริหารงานได้ปกติ

เดินเกมลดต้นทุน

ประกอบกับบริษัทได้ปรับแผนการใช้น้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินงานอีกทั้งรถของบริษัทเป็นรุ่นใหม่ สามารถใช้น้ำมัน B10 ที่รัฐสนับสนุน ส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันลดลง แต่การเปลี่ยนแผนใช้น้ำมันสามารถใช้ได้กับรถบางรุ่นที่บริษัทมีเท่านั้น

สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาส 3/2563 กลุ่มอุตสาหกรรมหลายกลุ่ม เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้ว แต่ยังไม่ครบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งบริษัทเห็นกำลังการผลิตของลูกค้าเริ่มมาในระดับ 80% และคาดว่าทิศทางต่อจากนี้กำลังการผลิตจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอัตราการใช้บริการคาดจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับลูกค้า โดยบริษัทมองธุรกิจในไตรมาส 2/2563 เป็นจุดต่ำสุด และบริษัทยังสามารถทำผลประกอบการให้ยืนอยู่ในแดนบวกได้ อนึ่ง 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.95 ล้านบาท ส่วนปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 46.82 ล้านบาท