> SET >

21 กันยายน 2020 เวลา 11:27 น.

โบรกแนะทยอยสะสมหุ้น ชี้ราคาเทียบกำไรเริ่มถูก

ทันหุ้น-สู้โควิด: บล.ทิสโก้ แนะทยอยสะสมหุ้นเพื่อลงทุนที่ระดับดัชนี 1,250 - 1,280จุด เพราะราคาเทียบกับกำไรเริ่มถูก ชี้โอกาสดัชนีลดลงต่ำกว่า 1,250 จุดยังมีน้อย ยกเว้นชุมนุมการเมืองจะรุนแรง และเกิดเหตุการณ์ล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง


นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงหลังของเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ปัจจัยการเมืองในประเทศทั้งการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา และการประชุมสภาในวันที่ 23-24 กันยายน ว่าจะมีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในมาตราใด ขณะเดียวกันการเมืองในต่างประเทศก็มีแนวโน้มดุเดือดมากขึ้น ทั้งการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน รวมถึงความไม่แน่นอนของผลการเจรจา Brexit ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนในช่วง 1-2เดือนข้างหน้า


นอกจากนี้ความผันผวนของราคาน้ำมันล่าสุดในช่วงต้นเดือนนี้ กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี รวมถึงกดดันความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ด้วย และเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจซ้ำเติมให้การหั่นประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยยังไม่สิ้นสุดลง อิงจากการศึกษาความสัมพันธ์ในอดีตพบว่า ทุก ๆ ราคาน้ำมันดิบบาเรน์น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ที่เปลี่ยนแปลง 1ดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีผลให้ดัชนีหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกันประมาณ 10 จุด และภาพรวมกำไรของบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกว่า 2,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น (SET EPS) ที่ประมาณ 30 สตางค์ต่อหุ้น


อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ยังคงมุมมองโซนดัชนีหุ้นไทยที่บริเวณ 1,250-1,280 จุด เป็นระดับดัชนีที่น่าทยอยซื้อสะสม “เพื่อการลงทุน” ซึ่งอิงมาจาก 1. ระดับค่าเฉลี่ยอัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือน (12 m Fwd. PER) ที่ปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16-17 เท่า จากเดิมประมาณ 15-16 เท่าในช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งจะได้ดัชนีที่เหมาะสมในช่วง 3 เดือนข้างหน้า หรือในไตรมาส 4/2563 ที่ 1,221-1,297 จุด และควรจะอยู่สูงกว่าระดับ 1,300 จุดขึ้นไปในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า


และ 2. การพักตัวทางเทคนิคตามหลัก "Fibonacci Retracement" โดยปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยกำลังมีแนวโน้มพักตัวที่ระดับ 38.2%หรือคิดเป็นระดับดัชนีที่ที่ 1,269 จุด


ทั้งนี้ สำหรับโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะหลุดต่ำกว่าระดับ 1,250 จุดลงมาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,200 จุดต้นๆ บล.ทิสโก้ มองว่ายังมีความเป็นไปได้น้อยอยู่ ยกเว้นการชุมนุมทางการเมืองมีความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด รวมถึงเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ภายในประเทศ จนทำให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง


ด้วยภาวะตลาดมีแนวโน้มแกว่งซึมลง ขณะที่มูลค่าซื้อขายถดถอยลงเรื่อย ๆ จึงเชื่อว่าจะเห็นการโยกเม็ดเงินเวียนกลุ่มลงทุนไปเรื่อย ๆ เรามองหุ้นที่น่าสะสม “เพื่อการลงทุน” จะเน้นหุ้นที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นน้อยกว่าตลาด (Laggard) แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น หุ้นเด่นที่ชอบ คือ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC และ WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาดจะให้อัตราเงินปันผล (Div. Yield) เฉลี่ยมากกว่า 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH และ TVO (หมายเหตุ : PROSPECT กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย)


สำหรับประเด็นหุ้นเก็งกำไรระยะสั้นได้แก่ หุ้นที่ได้รับอานิสงส์ข่าววัคซีนและการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบพิเศษ (STV) ได้แก่ AOT, BDMS, CENTEL และ SPA และ หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะออกมาดีทั้ง YoY และ QoQ – BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM และ SYNEX

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X