> SET > NOBLE

21 กันยายน 2020 เวลา 08:45 น.

NOBLEเด่นเข้าตา พี/อีต่ำ-ยิลด์สูง17% เป้าหมาย22.70บาท

ทันหุ้น –สู้โควิด –โบรกสแกน NOBLE หุ้นระดับกลางในกลุ่มอสังหาฯ ที่ไม่ควรมองข้าม คาดครึ่งปีหลัง 2563 มีกำไรปกติ 1 พันล้านบาท จากการโอนคอนโด 3 โครงการ มาร์จิ้นสูงมากขึ้น ชูหุ้นซื้อขาย PER ต่ำสุดในกลุ่ม 3-4 เท่า และยิลด์สูง 17% ต่อปี เชียร์ซื้อเป้า 22.70 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ NOBLE ว่า NOBLE ถือเป็นหุ้นระดับกลางในกลุ่มอสังหาฯ ที่ไม่ควรมองข้าม จากพัฒนาการเชิงบวกที่มีการเปลี่ยนแปลงเด่นชัด หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นตั้งแต่ปี 2562


โดยมีกลุ่มพันธมิตรใหม่ (คุณธงชัยฯ, มิสเตอร์แฟรงค์ -Fulcrum และ BTS) เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ผ่านกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ และเพิ่มพอร์ตสินค้าราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพื่อครอบคลุมทุกตลาด จากเดิมเน้นกลุ่มลูกค้ากลาง-บนเป็นหลัก โดยสิ้นไตรมาส 2/2563 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 1.52 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ 4 ปีข้างหน้า (ปี 2563-2566)


*ชูเป้าอนาคต 22.70 บาท


ทั้งนี้คาดแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2563 มีกำไรปกติ 1 พันล้านบาท เติบโตเด่นชัดจากครึ่งปีแรกที่มีกำไรปกติ 627 ล้านบาท หนุนจากการขายที่ดิน 200 ล้านบาท (ไตรมาส 4/2563) และการโอนฯ โครงการที่อยู่อาศัยอีก 5.3 พันล้านบาท ทั้งหมดถูกรองรับด้วย Backlog รอโอนฯ ครึ่งปีหลัง 2563 ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก 3 คอนโดใหม่ ที่มีมาร์จิ้นสูงเฉลี่ย 40% ภาพรวมผลักดันกำไรปกติปีนี้ 1.69 พันล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 1.73 พันล้านบาท และสู่ระดับ 1.8 พันล้านบาท ในปี 2564-2565 ตามลำดับ อิง PER 6 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ


ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย ปี 2564 ที่ 22.70 บาท จากจุดเด่นในเชิง Valuation ที่มี PER ซื้อขายต่ำสุดในกลุ่ม 3-4 เท่า และ Div Yield สูงสุดในกลุ่มฯ มากถึง 17% ต่อปี (ภายใต้ DivPayout Ratio เฉลี่ย 60%)


*ครึ่งหลังรอโอน 6.7 พันล.


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NOBLE ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2563 ที่คิดเป็นราว 40% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 1.8 พันล้านบาท แม้ไม่มีโครงการแนวสูงเสร็จใหม่พร้อมโอน ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2563 คาดฟื้นตัวโดดเด่น จาก Backlog ของ 3 โครงการที่ 6.7 พันล้านบาท นอกจากนี้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีหลัง 2563 ฟื้นดีขึ้นจากการแข่งขันการระบายสินค้าที่ลดความรุนแรงลงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2563


ขณะที่คงประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 1.8 พันล้านบาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2563 ที่ 16.30 บาทต่อหุ้น (อิง PER ปี 2563 ที่ 3.9 เท่า เทียบเท่า -0.5 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของบริษัทที่ 5.6 เท่า)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X