ทันหุ้น-สู้โควิด-หุ้น IPO แห่ตบเท้าเข้าซื้อขายช่วงที่เหลือปีนี้ จับตา 2 หุ้นยักษ์ใหญ่ SCGP และ ORมีโอกาสเข้าปีนี้ ล่าสุด ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง OR แล้ว โบรกคาดส่งผลดี PTT ให้เป้า 41 บาท แถมปลุกตลาดหุ้นช่วงปลายปีกลับคึกคัก เชื่อช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติและกองทุนไหลเข้าตลาดหุ้น มูลค่าการซื้อขายกลับมาดี

จากการรวบรวมข้อมูลบริษัทที่เตรียมจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ปรากฏว่ามีหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างเตรียมที่จะเสนอขายหุ้น IPO โดยเฉพาะหุ้น IPO ขนาดใหญ่ 2 บริษัท ประกอบด้วยหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ซึ่งจะนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์) ให้กับนักลงทุน ในวันที่ 23 กันยายน 2563 ก่อนที่จะขายหุ้น IPO ต่อไป และยังมีหุ้นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ยังมีหุ้น IPO อีกหลายบริษัทที่เตรียมจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียน ประกอบด้วยบริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO จะขายหุ้นในวันที่ 21-23 กันยายนนี้ ในราคาหุ้นละ 2.65 บาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายใน SET วันที่ 1 ตุลาคมนี้, บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT และ บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ที่อยู่ระหว่างการโรดโชว์

รวมทั้งยังมีบริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT , บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF และบริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE ที่คาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนภายในไตรมาส 4/2563

**กลต.นับหนึ่งไฟลิ่งOR

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอขายหุ้น IPO แล้ว ก็จะนำเข้าสู่คณะกรรมการบริษัทของ ปตท. และคณะกรรมการของ ORเพื่อให้พิจารณา ส่วนระยะเวลาเสนอขายหุ้น IPO นั้น จะต้องพิจารณาจากสภาวะตลาดหุ้นโดยรวมประกอบด้วย เนื่องจากขณะนี้มีปัจจัยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจจะกระทบต่อการเดินทางไปโรดโชว์ในต่างประเทศได้

**คาดช่วยปลุกตลาดหุ้น

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 23 กันยายนนี้ จะมีการโรดโชว์ เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน หลังจากนั้นรอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ให้ความเห็นชอบในการขายหุ้น หากได้รับอนุมัติก็มีโอกาสที่จะเข้าจดทะเบียนได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีหุ้นบริษัท เอ็นอาร์ อินสแนท์ โปรดิวซ์ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีโอกาสเข้าทันภายในไตรมาส 4/2563 นี้เช่นกัน

นางสาววีณา มองว่าการที่หุ้น IPOเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ทำให้นักลงทุนมีหุ้นที่เลือกลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามการที่ตลาดหุ้นจะคึกคักนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย

ด้านนายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการ Equity Derivative บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) คาดว่า หากหุ้น SCGP และหุ้น OR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดได้ในระดับหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศ สนใจเข้ามาลงทุน จะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนดังกล่าวเข้ามาสู่ตลาดหุ้น และทำให้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมเพิ่มขึ้นได้

OR เข้าตลาดดีต่อ PTT

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด แนะนำซื้อหุ้น PTT โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 41 บาทต่อหุ้น หลังจากที่การนำ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นมีความชัดเจน และถือเป็นสีสันให้กับ PTT ได้ ซึ่งหลังจากที่ ก.ล.ต.ได้อนุมัติคำขอเสนอขายหุ้นแล้ว หลังจากนี้ ORจะเตรียมกระบวนการทางการตลาด และดูสถานการณ์ตลาดต่อไป รวมถึงหุ้น PTT ยังมีปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน เนื่องจากมีพายุเฮอริเคนลูกใหม่ที่กำลังทยอยเข้าบริเวณอ่าวเม็กซิโก ทำให้ซัพพลายโดยรวมลดลงเป็นการชั่วคราว

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองความคืบหน้าของ OR เป็น Sentiment บวกต่อการลงทุน PTT ทั้งด้านการปลดล็อคมูลค่าธุรกิจค้าปลีก (OR) ซึ่งภายหลังการ IPO จำนวนไม่เกิน 3,000 ล้านหุ้น (รวม Over-allotment 300 ล้านหุ้น) PTT จะถือหุ้น OR ไม่น้อยกว่า 75%และมี Pre-emptive rights  เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น PTT จำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น โดยยังคงแนะนำซื้อหุ้น PTT ให้ราคาเหมาะสมที่ 40 บาทต่อหุ้น

PTTปันผลระหว่างกาล 0.18บ.

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือPTT แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ บริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 5,142 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของกำไรสุทธิของบการเงินรวม

โดยเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวจะจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรในส่วนของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. ที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในอัตรา 20% และเงินปันผลรับจากบริษัทในเครือที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในอัตรา 20% ซึ่งผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาได้รับสิทธิเครดิตภาษีเงินปันผลตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฏากร

ทั้งนี้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 1 ต.ค.2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 16 ต.ค.2563