> SET > DELTA

17 กันยายน 2020 เวลา 08:30 น.

DELTAตุลาคมมีข่าวดี รายใหญ่ป้อนออเดอร์

ทันหุ้น –สู้โควิด – ผู้บริหาร DELTA ยอมรับออเดอร์ใหม่ต่างแดนไหลเข้า ชูสินค้าเทคโนโลยีใหม่ให้มาร์จิ้นสูง ดันอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2563ยืนเหนือ 23.84% และ 10.41% ด้าน EV Car ขาขึ้น จับตาต้นเดือนตุลาคมมีข่าวดี!


นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้าอีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า ในปัจจุบันบริษัทยังคงได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ที่มีตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบสารสนเทศ (Cloud Computing) และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ปัจจุบันยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ตที่เติบโต


*รายใหญ่ป้อนออเดอร์


โดยบริษัทคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2563 มีโอกาสเห็นการรับคำสั่งผลิตใหม่ๆ (ออเดอร์) เข้ามาเพิ่ม หนุนให้คาดว่าในปีนี้ 2กลุ่มดังกล่าวจะสร้างรายได้เพิ่มได้มากกว่า 300 ล้านบาท อีกทั้งด้วยกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรค่อนข้างสูง ส่งผลให้บริษัทคาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ให้อยู่ในระดับที่ไม่น้อยกว่า ไม่ต่ำกว่าระดับ 23.84% และ 10.41% ตามลำดับ


ประกอบกับจากการพัฒนาระบบ 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ปัจจุบันเริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มีผลทำให้กลุ่มผู้ประกอบโดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่อง IoT เริ่มมองหาชิ้นส่วนที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมารองรับการผลิตภัณฑ์สินค้าออกสู่ตลาดในอนาคต ส่งผลให้บริษัทคาดว่าจะช่วยสนับสนุนความต้องการสินค้ากลุ่ม ICT เช่น Telecom และ Networking เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณคำสั่งซื้อเข้ามาในช่วงที่เหลือของปี 2563 เป็นต้นไปอีกด้วย


นอกจากนี้ บริษัทประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงครึ่งหลังปี 2563จะมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากในช่วงครึ่งปีแรกนี้ที่มีการชะลอตัวลงจากปัจจัยโรคระบาด สะท้อนต่อการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อสินค้าพัดลมไฟฟ้าที่จะปรับตัวดีขึ้นตามอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) นั้น มีสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่กำลังอยู่ในกระแสซึ่งในหลายประเทศเริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นออเดอร์เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 เป็นต้นไป


*ยอดขายเข้าเป้า


อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 2563ไว้ที่ประมาณ 5-10% เทียบปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 51,896.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,959.96 ล้านบาท สอดคล้องตามคำสั่งซื้อสินค้าที่ยังคงมีการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เชิงรุกทำตลาดเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม ประกอบกับมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้เพิ่มในอนาคตอีกด้วย


ส่วนแผนการลงทุนในปี 2563 นั้น ยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ หลักๆ จะเป็นการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและกระบวนการผลิตให้มีความทันสมัยสามารถรองรับเทคโนโลยีและเป็นนวัตกรรมเท่านั้นและใช้เงินลงทุนไม่มาก ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายภายในปี 2566 จะมีกำลังการผลิตที่รองรับยอดขายสูงถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


"ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เรามองว่าน่าจะเป็นเพราะนักลงทุนเห็นผลการดำเนินงานที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากโรคระบาดแต่เรายังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้งด้วยการพัฒนาสินค้าเกี่ยวเนื่องเทคโนโลยีทำให้แนวโน้มความต้องการใช้สินค้าประเภทนี้ยังคงมีอยู่ ในตอนนี้เราเองก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศหลายเข้ามาเจรจา ซึ่งครึ่งหลังปีนี้ก็มีโอกาสเห็นการรับออเดอร์ใหม่เข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คาดว่าภายในช่วงเดือนตุลาคมนี้อาจมีข่าวดีออกมาให้เห็น"นายอนุสรณ์ กล่าว

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X