ทันหุ้น-สู้โควิด-จับตาครม.มีมติเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ “Special Tourist VISA (STV)”เดินทางเข้าประเทศไทย โบรกมองระยะสั้นกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาฟื้น นับถอยหลังรอเปิดน่านฟ้า เล็งหุ้นโรงแรม MINT, ERW, CENTEL AWCและโรงพยาบาลระดับบน BDMS- BH จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้

บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS ระบุว่าครม.ได้มีมติอนุมัติหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ “Special Tourist VISA (STV)” โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมี่ยมลองสเตย์เดินทางเข้าประเทศไทยได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะต้องผ่านกระบวนการตรวจโควิด-19 และกักตัวนาน 14 วัน

มาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมปีนี้จนถึงเดือนกันยายน 2564ในขณะที่เป้าหมายของรัฐบาลที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวลองสเตย์เดินทางเข้าประเทศได้ไม่เกินเดือนละ 1,200คนนั้นเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อย แต่เรามองว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังจากตกอยู่ในภาวะซบเซามาตั้งแต่เดือนเม.ย. ในเบื้องต้น เราเชื่อว่ากลุ่มโรงแรมระดับลักชัวรี (MINT, ERW, CENTEL และ AWC) และโรงพยาบาลระดับบน (BDMS และ BH) จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้

นักท่องเที่ยวลองสเตย์จะเริ่มเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม.ได้มีมติอนุมัติหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ “Special Tourist VISA (STV)” โดยจะอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวกลุ่มพรีเมี่ยมที่ประสงค์จะเดินทาง และ/หรือ พำนักระยะยาว (ท่องเที่ยวแบบลองสเตย์) เดินทางเข้าประเทศไทยได้เพื่อกระตุ้นธุรกิจโรงแรมและการบริการและเศรษฐกิจของประเทศไทย

เงื่อนไขสำคัญ: มาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศไทย:นักท่องเที่ยวจะต้องกักตัวในโรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักตัว (ASQ) หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) นาน 14 วัน และหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวภายในประเทศไทย: นักท่องเที่ยวจะต้องมีหลักฐานการชำระเงินค่าสถานที่กักตัว ASQ หรือ AHQ และที่พักในประเทศไทยหลังจากผ่านช่วงกักตัว เช่น หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก ค่าเช่าคอนโดมิเนียม และการยืนยันเที่ยวบิน นักท่องเที่ยวกลุ่ม STV จะเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งละ 2,000บาท และได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เป็นเวลา 90 วัน และสามารถขยายระยะเวลาพำนักได้อีก 2ครั้ง รวมระยะเวลา 270 วัน รัฐบาลวางแผนเริ่มใช้มาตรการนี้ในเดือนตุลาคมปีนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564และจะประกาศรายละเอียดสุดท้ายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)

แม้จำนวนนักท่องเที่ยวลองสเตย์ค่อนข้างน้อย แต่เรามองว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวก ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า นักท่องเที่ยวลองสเตย์มีกำลังซื้อสูง โดยมีการใช้จ่ายท่องเที่ยวเกือบสองเท่าของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ ~5,200 บาท/คน/วัน รัฐบาลคาดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวลองสเตย์เดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ไม่เกินเดือนละ 1,200 คน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศไทย ~1.0 พันลบ./เดือน แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลองสเตย์ที่คาดการณ์ไว้จะค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่ ~3 ล้านคน/เดือน แต่เรามองว่าเป็นการเริ่มพัฒนาการเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังจากอยู่ในภาวะซบเซามาตั้งแต่เดือนเม.ย. เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา

ในเบื้องต้น: โรงแรมและโรงพยาบาลระดับบนจะได้รับประโยชน์เมื่อวานนี้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวไทยตอบรับข่าวนี้ในเชิงบวก: CENTEL ปรับขึ้น 8%, ERW +8%, MINT +6%, AAV +6%, AOT +3% และ AWC +1% ในเบื้องต้น เราเชื่อว่ากลุ่มโรงแรมระดับลักชัวรี (MINT, ERW, CENTEL และ AWC) และโรงพยาบาลระดับบน (BDMS และ BH) จะได้รับประโยชน์จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวลองสเตย์ซึ่งมีกำลังซื้อสูง ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา คือ การตอบรับของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายต่อมาตรการนี้ และมาตรการเฝ้าระวังของรัฐบาลเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 หลังจากเปิดประเทศต้อนรับชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคนไทยและนักท่องเที่ยว

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1