> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ >

19 กันยายน 2020 เวลา 14:00 น.

ผ่าจิ๊กซอร์การลงทุน.... ผ่าน ”สุกิจ อุดมศิริกุล”

“หากไล่เรียงถึงทิศทางการลงทุนในปีนี้ คงต้องเลือกหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย อาทิ หุ้นกลุ่มอาหาร  หุ้นกลุ่มบริโภค ส่วนหุ้นปลอดภัย ได้แก่ หุ้นโรงไฟฟ้า หุ้นค้าปลีก หุ้นปันผล รวมถึงซื้อกองทุน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีความแข็งแรงของรายได้ 80-90%”


โลกของการลงทุนมักเปลี่ยนไปตามยุคสมัย สะท้อนให้เห็นถึงมุมความคิดการลงทุนที่เปลี่ยแปลงไปจากยุคเคาะกระดานอย่างสิ้นเชิง จะว่าไปแล้วในอดีตการเรียนรู้อาจมีข้อจำกัดแถมเข้าถึงยาก  ส่วนปัจจุบันการลงทุนที่แท้จริง คือการเรียนรู้ ไล่เรียงตั้งแต่นักลงทุนรุ่นเก่ามักใช้พื้นฐานของบริษัท รวมถึงผลกำไรที่สม่ำเสมอเป็นดัชนีชี้วัดการลงทุน


ผลสนับสนุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ เห็นจะเป็นความกล้าได้กล้าเสีย รวมถึงการยอมรับความเสี่ยงได้  บทวิเคราะห์อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นบรรทัดฐาน ดังนั้น  การเล่นหุ้นในยุคปัจจุบันอาจเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น แต่ผลสนับสนุนอาจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับ ซึ่งอาจ ไม่ใช่สูตรตายตัวอีกต่อไป


แน่นอนว่า นักลงทุนยังคงเทใจให้กับ”ตลาดหุ้น”เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายอย่างมีทิศทางผ่านมุมมองการตกผลึกของ “สุกิจ อุดมศิริกุล” กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล. ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมฉายภาพการบริหารความเสี่ยง และวางวิชั่นเดินไปสู่เป้าหมายอย่างมีทิศทาง


ผ่ากรอบการลงทุน

สุกิจ อุดมศิริกุล  กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล. ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงทิศทางการลงทุนในปีนี้  ว่า เป็นปีพิเศษของการลงทุน  เนื่องจากหุ้นราคาถูกทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาเทรดกันมาก แต่ทั้งนี้หุ้นอาจจะไม่ถูกตลอดเวลา ดังนั้นสตอรี่ที่จะทำให้การลงทุนมีความน่าสนใจเห็นจะเป็น “หุ้นไอพีโอ” ที่ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดให้ตลาดหุ้นคึกคัก    สร้างกำไรให้กับนักลงทุน ดังจะเห็นว่าในปีนี้มีหุ้นที่เข้ามาทำให้อารมณ์ในการเทรดหุ้นมีความน่าสนใจ ขณะที่ปีนี้บล.ไทยพาณิชย์มีหุ้นไอพีโออยู่ในมือประมาณ 2-3 ตัว ซึ่งถือเป็นหุ้นไซต์ใหญ่และมีพื้นฐานดี


หากไล่เรียงถึงทิศทางการลงทุนในปีนี้ คงต้องเลือกหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อย อาทิ หุ้นกลุ่มอาหาร   หุ้นกลุ่มบริโภค  ทั้งนี้มองว่า ค้าปลีก ขนส่ง ยังคงมีเสน่ห์ให้ลงทุน ส่วนท่องเที่ยวคงต้องใช้เวลา เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาต้องกักตัว ข้อจำกัดมีมาก ส่วนโมเดลนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศคงต้องรอวัคซีน และ  หากต้องรอกักตัว คงนานเกินไป ดังนั้น ไตรมาส 4 จะแผ่ว  เนื่องจากหมดความมั่นใจ  จากสถานการณ์ ไม่เอื้อในการบริโภค ทำให้คนระมัดระวังในการจับจ่าย หุ้นที่จะได้ประโยขน์จากตรงนี้ ควรจะมาจากเมกกะโปรเจคใหญ่ๆจากภาครัฐ


ทิศทางการลงทุน

ที่สำคัญ รัฐบาลมีเงินมากซึ่งยังไม่ได้ใช้ผ่าน่บิ๊กโปรเจค  หากจำไม่ผิดรัฐใช้ไปแค่ 30% ในงบปี 2563 นับว่าใช้งบน้อยมาก  หากกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐจะช่วยได้มาก  ส่วนเอกชนทุกคนลดการลงทุนลง ไม่มีใครกล้าลงทุน  เนื่องจากต้องควบคุมต้นทุนควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง


“กลไกหลักด้านจีดีพีที่ติดลบอยู่นั้น คาดว่าปีนี้ทุกคนคงปล่อยให้ติดลบ เพราะคงทำอะไรไม่ได้ อีกทั้งทุกอย่างคงไม่กลับมาเหมือนเดิม วันที่เกิดโควิดแรกๆ ทุกคนคิดว่าจะกลับมาเหมือนเดิม แต่วันนี้คิดอย่างนั้นจะเข้าข้างตัวเองมากเกินไป แน่นอนว่า ซัพพลายที่มีต้องลดลงเพื่อรองรับสิ่งที่เกิดขึ้น  ขณะที่ค่าใช้จ่ายผสมกับพฤติกรรมที่เปลี่ยน  ผู้ประกอบการอาจต้องเปลี่ยนวิธีกรรมทางการทำธุรกิจไม่ว่าจะออฟไลน์ออนไลน์ รวมๆ ทุกอย่างจะเล็กลง และจะไม่กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งคงต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี โดยบางอย่างอาจเปลี่ยนไป ในสิ่งที่ดีกว่า”


จิ๊กซอลงทุนยุค New Normal

สุกิจ อธิบาสยอีกว่า การลงทุนในยุค New Normal  ต้องลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี  สัญญาณที่นักลงทุนควรต้องดูคือ  บริษัทนั้นมีการปรับตัวอย่างไร เพราะต้องมีแผนที่เห็นชัด รวมถึงการปรับตัวที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่  เพราะการลดค่าใข้จ่ายคือการลดความเสี่ยง  ที่สำคัญรายได้น้อยต้องลดค่าใช้จ่าย ให้เกิดการสมดุลย์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ต้องลดค่าใช้จ่าย  แปลว่าธุรกิจต้องปรับตัว เพราะหากลดค่าใช้จ่ายได้กำไรจะเกิดขึ้นทันที  สำหรับปีนี้หุ้นที่จะขึ้นคงเป็นหุ้นกลุ่มอาหาร และค้าปลีก ดังนั้นธุรกิจต้องใช้เวลาในการปรับตัว การท่องเที่ยวต้องปรับตัวมาก เนื่องจากต้นทุนเดิมกับรายได้ไม่สอดคล้องกัน


“ทั้งนี้ครึ่งปีหลังภาพการลงทุนจะดีขึ้น ดังนั้นการปรับตัวคือการทำอย่างไรให้อยู่รอด  แน่นอนว่าหากเศรษฐกิจกลับมาดี จะทำให้ฟื้นตัวได้ ที่สำคัญหากบริษัทนั้นเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง  จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้จิ๊กซอร์ธุรกิจที่สำคัญ คือการลดคอร์สเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง ทำให้เลือดไม่ไหล”


บริหารความเสี่ยง

หลักสำคัญของบริหารความเสี่ยง จะเห็นได้ว่าโลกเกิด 2 มิติอย่างชัดเจน . แน่นอนเงินไม่มีที่ไป โดยคนที่ลงทุนในเมืองไทยอยากซื้อหุ้นทั้งๆ ที่เห็นและรับความเสี่ยงได้มาก โดยหวังว่าทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิมด้วยความเชื่อ ทั้งนี้ใม่มีใครรู้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่  ดังนั้น นักลงทุนควรซื้อหุ้นปลอดภัย  อาทิ หุ้นโรงไฟฟ้า  หุ้นค้าปลีก หุ้นปันผล รวมถึงซื้อกองทุน  ซึ่งทั้งหมดล้วน  มีความแข็งแรงของรายได้ 80-90%


“ประเด็นหลัก เชื่อว่าคนเริ่มติดใจหุ้นตรงที่ เห็นธรรมชาติของหุ้นหลายๆครั้งจบและขึ้นได้ ดังนั้นมองว่าความเสี่ยงทุก 3-4 ปีที่ผ่านมา  คนรุ่นใหม่เข้าใจความเสี่ยงโดยมองธุรกิจที่จับต้องได้ นี่คือความฉลาดของนักลงทุนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าใจต้องไม่ยอมแพ้ เพราะนั่นคือสิ่งที่คู่กับนักลงทุน โดยหุ้นตก จิตต้องไม่ตก”


หุ้นปลอดภัย

สุกิจ บอกว่า นักลงทุนบางกลุ่ม ไม่ใช้บทวิเคราะห์เป็นสะพานในการชี้นำการลงทุน แต่จะใช้การมองตลาด การดูเทคนิคมากกว่า โดยนักลงทุนกลุ่มนี้จะใช้บทวิเคราะห์น้อย เนื่องจากเชื่อมั่นตัวเอง  ทั้งนี้หากหุ้นลง นักลงทุนกลุ่มนี้จะตัดขาดทุนทันที โดย  .โลกเข้าสู่จังหวะที่เรียกว่าเติบโตตามเหตุผล อีกทั้ง ดอกเบี้ยต่ำ ที่ผ่านมาดอกเบี้ยไม่เคยถึง 2% ซึงดอกเบี้ยต่ำ เติบโตต่ำ แปลว่า หุ้นที่เราจะลงทุนธุรกิจนั้นต้องเติบโตสูง ดังนั้นธุรกิจเป็นวัฏจักร ดังนั้นในอีก  5  ปีข้างหน้า  หาก เศรษฐกิจเป็นขาขึ้น ต้องลงทุนกับหุ้นที่ไปกับเศรษฐกิจขาขึ้น   ดังนั้นคงต้องเลือกหุ้นที่มีการเติบโตและมีพื้นฐานดี รวมถึงจังหวะเข้าลงทุน


และอีกหนึ่งไฮไลท์ของการลงทุนธุรกิจที่น่าสนใจเข้าลงทุน ได้แก่  สินค้าปลีก ธุรกิจโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล แต่จะเป็นระยะยาวไม่ใช้ระยะสั้น ทั้งนี้ในอนาคตธุรกิจอาหารเสริมจะเป็นธุรกิจที่มาแรงหลังเกิดโควิด โดยคนจะหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทั้งนี้ในอนาคตการแพทย์จะเปลี่ยนการรักษาเป็นการป้องกัน จะเป็นการรักษาตั้งแต่ยังไม่ป่วย เป็นการกินวิตามิน และอาหารเสริม ซึ่งหลายบริษัทหันมารุกธุรกิจอาหารเสริม อาทิ อาร์เอส เป็นต้น


สูตรสำเร็จการลงทุน

สุกิจ  สรุปแง่คิดการลงทุนว่า โลกของการลงทุนเปลี่ยนไป  เนื่องจากคนสแกนเร็ว ที่สำคัญการเล่นหุ้นในปัจจุบันใจต้องหนักแน่น โดยการเทรดในแต่ละวันหุ้นแกว่งมาก ดังนั้นต้องบริหารจัดการ โดยปรับตัวอย่างไรให้อยู่ได้ โลกของการลงทุนในปัจจุบัน พื้นฐานอาจะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ที่สำคัญจิ๊กซอร์ของ วัฏจักรการลงทุนได้เปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากโครงสร้างใหญ่เปลี่ยน  ดังนั้น สตอรี่ที่จะทำให้การลงทุนมีเสน่ห์น่าสนใจเข้าลงทุน เห็นจะเป็นพื้นฐาน งบการเงิน อาจจะไม่มีประโยขน์สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่


“ อีกปัจจัยที่น่าจับตา หากนักลงทุนเติมประสบการณ์เข้าไป รวมถึงเข้าใจในธุรกิจอย่างแท้จริง แน่นอนว่า การถอดสมการรับความเสี่ยง อาจจะเป็นสูตรการลงทุนสำหรับนักลงทุนรุ่นใม่ ส่วนคนที่ชอบเก็งกำไรไม่จำเป็นต้องดูลึกถึงฐานราก ดังนั้น สูตรความสำเร็จของการลงทุนคงไม่มีสูตรตายตัว  สำคัญอยู่ที่ใครจะถอดสมการได้เร็วกว่ากัน และทั้งหลายเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการลงทุน ส่วนใครจะโฟกัสและถอดรหัสการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด หัวใจหลักคือ  หุ้นตก จิตต้องไม่ตก”


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X