> SET > TASCO

15 กันยายน 2020 เวลา 15:39 น.

5 โบรกฯ แห่ลดราคาเป้าหมายหุ้น TASCO ลงกว่าเท่าตัว

ทันหุ้น-สู้โควิด : โบรกเกอร์ 5 ราย พร้อมใจปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ลง หลังบริษัทประกาศยกเลิกการซื้อน้ำมันจากประเทศเวเนซูเอลา โดยโบรกเกอร์ทั้ง 5 รายดังกล่าวปรับลดคำแนะนำเป็นขาย โดยโบรกเกอร์ที่ปรับลดราคาลงมาต่ำสุดได้แก่ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ลดราคาเป้าหมายเหลือ 12.40 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 31 บาทต่อหุ้น 


ขณะที่ราคาหุ้น TASCO ปรับตัวลงมาฟลอร์ 2 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่เปิดตลาด ซึ่งจะต้องดูว่าราคาหุ้นปัจจุบันใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายของโบรกเกอร์รายใดบ้าง 


บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)  มองว่า แนวทางการลดความเสี่ยงเบื้องต้นของ TASCO คือการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลาให้มากที่สุดภายในระหว่างนี้ก่อนถึง deadline ในเดือน พ.ย. 2563 นี้ และอยู่ระหว่างการศึกษาแหล่งน้ำมันดิบจากภูมิภาค ประมาณ 13 ชนิดมาผสมเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยบริษัทอยู่ระหว่างติดต่อซื้อน้ำมันดิบจาก Trading Company แทนการซื้อโดยตรงจากประเทศนั้นๆ ซึ่งน้ำมันดิบที่ซื้อจาก Trading Company จะมีราคาสูงกว่าและให้ Yield ที่ต่ำกว่าจากราว 70% เหลือเพียง 50 - 60% เท่านั้น


บริษัทผลิตยางมะตอยได้จำกัด จึงต้องเลือกกลุ่มลูกค้า retails ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า wholesales ปัจจุบัน ขยายไปแล้วมากถึง 8 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย, ลาว และจีน เป็นต้น, ส่งเสริมการขายสินค้า Premium products ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง และกลุ่มธุรกิจก่อสร้างจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดภายในประเทศ นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคงมุมมองบวกต่อราคายางมะตอยที่ยังคงในระดับสูง ซึ่ง Supply ที่ลดลงจากการหยุดสายการผลิตของ TASCO จะถูกชดเชยด้วยบริษัทที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาค เช่น ประเทศจีน เป็นต้น


ฝ่ายวิจัยหยวนต้าฯ ยังคงประมาณการปี 2563 ที่ 2,024 ล้านบาท ลดลง  17.4% จากปีก่อน  เนื่องจาก บริษัทยังคงสัญญาเช่า Floating storage ไปจนถึงเดือน ก.พ. 2564 และ มีสต๊อกน้ำมันดิบที่สามารถผลิตได้จนถึงไตรมาส 1/64  อย่างไรก็ตาม ได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ลง 50% เป็น 1,504 ล้านบาท  ลดลง 25.7% เนื่องจากปริมาณการขายยางมะตอยลดลงจากปกติที่ 2.0 - 2.2 ล้านตันต่อปี เหลือเพียง 1.0 - 1.2 ล้านตันต่อปี ส่งผลให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 12.4 บาทต่อหุ้น อิงที่ PER ที่ 13.0 เท่า  จาก 16.4 เท่า  เนื่องจาก Yield ที่ได้จาก Supply รายใหม่ต่ำกว่า รวมทั้งมีต้นทุนผลิตที่สูงกว่า กระทบอัตรากำไรขั้นต้นในระยะยาว จึงลดคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "ขาย" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 12.40 บาทต่อหุ้น


ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)  ระบุว่า โดยคาดว่าปี 2563 กระทบไม่มากเนื่องจากมีสต็อกพอเพียง แต่ปี 2564 จะกระทบรุนแรง เราปรับประมาณการกำไรลง 45% และ บนฐาน10ปี Forward P/E+1SD = 14 เท่า ตามดัชนีกลุ่มวัสดุก่อสร้าง จะทำให้ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 16 บาท จาก 30 บาท ลดเกรดเป็น ขาย   


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)  ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 ลง 7% และ 40% ทำให้กำไรสุทธิจะหดตัว 25% และ 29% เป็น 2.36 พันล้านบาท และ 1.67 พันล้านบาท ตามลำดับ จึงปรับลดคำแนะนำเป็นขาย  จากเดิมแนะนำซื้อ  และให้ราคาพื้นฐานใหม่ 14 บาท 


ด้านบล.ทิสโก้ ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 15 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 32 บาทต่อหุ้น พร้อมปรับคำแนะนำเป็นขาย เช่นเดียวกับบล.เอเชีย พลัส ก็ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 15 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 25.05 บาทต่อหุ้น 


ราคาหุ้น  TASCO ช่วงบ่าย เคลื่อนไหวอยู่ที่ 17.40 บาท ลบ 3.00 บาท หรือ 14.71% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 62.56 ล้านบาท 

  

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X