> SET > JMART

14 กันยายน 2020 เวลา 07:30 น.

JMART-JMTขอโอกาส อดิศักดิ์ท้าดูฝีมือลงทุน

ทันหุ้น-สู้โควิด : JMART-JMT ควงคู่ประกาศเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจราว 30% ทั้ง RO-PP ฉุดหุ้นวูบแรง “อดิศักดิ์” งงสวนทางกับผลงานบริษัทที่จะเกิดขึ้น ชี้เป็นโควิดโอกาสในการก้าวกระโดด ระบุแผนเทกบริษัทดันมูลค่าเต็มไปหมด แต่ขอ PP เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน แนะผู้ลงทุนดูฝีมือในอดีต ด้านโบรกเชื่อสภาพการเงินยังดี คาดเพิ่มทุน JMART ได้เงิน 4 พันล้าน JMT ได้เงินอีก 8-8.5 พันล้าน


ทันทีที่แม่ลูก บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ควงคู่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ประกาศขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทต่างควงคู่ดิ่งพสุธา โดย JMART (11 ก.ย.) ปิดที่ 13.40 บาท ร่วงลง 12.99% ขณะที่ JMT ปิดที่ 29.25 บาท วูบ 9.30% ท่ามกลางความสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อ?


JMART ประกาศเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป 362.6 ล้านหุ้น (General mandate) คิดเป็น 30% ของทุนชำระแล้วในปัจจุบัน แบ่งเป็น จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 272 ล้านหุ้น (20% ของทุนชำระแล้ว) และ 2. จัดสรรแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 90.6 ล้านหุ้น (10% ของทุนชำระแล้ว) บริษัทยังมีมติออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้คงค้าง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน


ขณะที่ JMT ประกาศเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป 365.60 ล้านหุ้น (General mandate) คิดเป็น 24% ของทุนชำระแล้วในปัจจุบัน จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวนไม่เกิน 267.45 ล้านหุ้น และบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนไม่เกิน 89.15 ล้านหุ้น


นอกจากนี้ยังมีการแจก JMT-W3 ในจำนวนไม่เกิน 100 ล้านหน่วย ให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า มีอายุ 1 ปี 6 เดือน ราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 42 บาท/หุ้น กำหนดให้วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรร JMT-W3 อัตราส่วนการจัดสรรจะอยู่ในช่วง 8.91509 – 11.14498 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมถึงอนุมัติการจัดสรร JMT-W3 ให้กรรมการและพนักงาน (ESOP) จํานวน 3.2 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี ราคาแปลงสภาพที่ 29.10 บาท และยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อชําระคืนหนี้ เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจเช่นเดียวกัน


สำหรับการออก JMT-W3ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินประมาณ 4,200 ล้านบาท โดยระหว่างปี 2563-2565 บริษัทจะมีเงินกู้ยืมที่ครบกำหนดชำระประมาณ 4,000 ล้านบาท


@แนะดูฝีมืออดีต


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดใจกับ "ทันหุ้น" ถึงสถานการณ์การร่วงต่ำของราคาหุ้นหลังจากที่บริษัทขอประกาศเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปว่า นักลงทุนอาจจะไม่เข้าใจว่า การเพิ่มทุนนี้เป็นการขอสิทธิ์ไว้ก่อนเพื่อรองรับโอกาส จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ซึ่งก็มีอายุเมื่อถึงการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งถัดไปช่วง เม.ย.-พ.ค.2564


โดยสิ่งที่บริษัทมองเห็นขณะนี้ก็คือสภาวะโควิดจะเป็นโอกาสที่จะเทคโอเวอร์ ขณะเดียวกันตอนนี้มีบริษัทตามหนี้เล็กๆ จำนวนมากที่ต้องการเข้ามาสู่ JMT ซึ่งพีอีถูกแค่ 5 เท่า แต่ถ้ามาอยู่กับ JMT มีพีอี 30-35 เท่า ทางบริษัทก็ได้ประโยชน์ไม่ต้องจ่ายเงินก็เป็นการเพิ่มทุน PP ซึ่งพวกนี้จะทำให้บริษัทเติบโต แต่ต้องขอกรอบไว้ก่อนไม่งั้นอาจจะไม่ทันการ


โดยจะเห็นว่าผลประกอบการของบริษัทจะทำสถิติสูงสุด ทั้ง JMART JMT และ SINGER ทั้งๆ ที่เกิดภาวะโควิด และไตรมาส 3 ที่จะปิดนี้ก็นับว่าผลประกอบการจะสูงนิวไฮขึ้นไปอีก


“เข้าใจนักลงทุน มองว่าความเสี่ยงของเค้าในการเพิ่มทุน แต่สำหรับผมการลงทุนที่ผ่านมากก็เคยทำให้เห็นแล้ว อย่างการเข้าไปซื้อ SINGER ตอนนั้นมาร์เก็ตแค๊ป 3 พันล้าน วันนี้ 5 พันล้าน และยังไปได้ต่อโอกาสเป็นหมื่นล้าน นี่คือแนวทางการลงทุนของผม สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์มันสวนทางการสิ่งที่เราจะเติบโตและผลประกอบการไตรมาส 3”


นายอดิศักดิ์ ยืนยันว่า สำหรับเม็ดเงินในการดำเนินงานบริษัทมีเพียงพอ และการปิดดีลกับบริษัทไฟแนนซ์เกาหลีอย่าง KB Kookmin Card ที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัท จะเข้ามาใส่เงินกับ เจฟินเทค และเอาเงินมาจ่ายคืน เจมาร์ท 3 พันล้านบาท ซึ่งก็ทำให้บริษัทได้รับเม็ดเงินมาเพิ่มเติม


ด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT เปิดเผยว่า การขอเพิ่มทุนแบบ General Mandate ของ JMT เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็ว รองรับโอกาสในการซื้อหนี้ในอนาคต ด้วยสถานการณ์ที่เร่งให้หนี้ด้อยคุณภาพออกมาเป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุน


@เพิ่มทุนดันเงินทะลัก


ด้านฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน ระบุว่า ฐานะการเงินของ JMART ปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/Equity) อยู่ที่ 2.6 เท่าถือว่าเกือบเต็มเพดาน แต่จะได้รับเงินร่วมทุนจากพันธมิตรการเกาหลีใน เจฟินเทค 2.7 พันล้านบาททันปีนนี้ ทำให้ยังมีวงเงินเหลือลงทุนในระยะสั้น ส่วนแผนเพิ่มทุนคาดจะได้เงิน 4 พันล้านบาท (คาดราคาเพิ่มทุน 15 บาท) ยังคงประมาณการไว้ตามเดิมที่เป้า 15.70 บาท


ส่วน JMT มี IBD/Equity 2 เท่า และเหลือ JMT-W2 218 ล้านหุ้น ซึ่งหากใช้สิทธิหมดจะได้เงิน 4 พันล้านบาท เพียงพอซื้อหนี้ 6-7 พันล้านบาทได้ ดังนั้นแผนเพิ่มทุนจึงเตรียมไว้เพื่อโอกาสซื้อหนี้กองทุนใหญ่ ในภาวะอุตสาหกรรมเป็นขาขึ้น หากแผนเพิ่มทุนใช้เต็มจะได้เงิน 8-8.5 พันล้านบาท (คาดราคาเพิ่มทุน 30-32 บาท) ยังคงประมาณการตามเดิมเป้า 30.75 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X