> SET > EPG

09 กันยายน 2020 เวลา 08:30 น.

EPGยันบรรจุภัณฑ์โต ปีนี้ตั้งเป้ามาร์จิ้น30%

ทันหุ้น –สู้โควิด –EPG ตั้งเป้ารักษามาร์จิ้นปีนี้ที่ 28-30%เน้นควบคุมค่าใช้จ่าย พัฒนาสินค้าใหม่ เชื่อผลงานดีขึ้นทุกไตรมาส ชูธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกเติบโตได้ดี จากดีมานด์ใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ฟากโบรกมองผลงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ทุกธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว แนะนำซื้อเป้า 7.20 บาท


ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจฉนวนกันความร้อน (AEROFLEX) มีแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้นโดยเห็นได้ชัดในเดือนกรกฎาคม จากไตรมาส 1 ปี 2563/2564 ที่ติดลบประมาณ 16% โดยตลาดในประเทศมีการฟื้นตัวที่ดี ส่วนตลาดต่างประเทศเริ่มจัดการกับปัญหาโควิด-19ระบาดได้ดีขึ้น แต่ก็เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่อง


ขณะที่ภาพธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งชิ้นส่วนยานยนต์ (AEROKLAS) โดยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563/2564 ยอดขายติดลบ41% คาดว่าทั้งปีน่าจะติดลบ 25% อย่างไรก็ตามเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จากก่อนหน้านี้ที่ยอดขายรถยนต์ลดลง


*ธุรกิจบรรจุภัณฑ์โตดี


ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563/2564 ยอดขายลดลง 9%โดยเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาความต้องการก็เติบโตสูงมาก อย่างไรก็ดีเชื่อว่าผลประกอบการทุกธุรกิจจะเติบโตดีขึ้นตามลำดับ จากการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีในประเทศ ทำให้การลงทุนเริ่มเดินหน้าต่อ อีกทั้งบริษัทก็มีการพัฒนาสินค้าต่อเนื่อง


ส่วนปีนี้บริษัทได้ประเมินว่ายอดขายจะทำได้ 9 พันล้านบาท ลดลง 12% จากปีก่อน หากปัญหาโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ก็อาจจะส่งผลให้ยอดขายลดลงมากกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่า แต่บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำกำไรให้แข็งแกร่ง เพราะค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับที่คาดการณ์ได้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลงทำให้ราคาวัตถุดิบยังทรงตัวได้ ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 28-30%ด้วยบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ


*ธุรกิจฟื้นตัวดีต่อเนื่อง


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง EPG ว่าผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน ไตรมาส 1/2563-2564 (เม.ย.-มิ.ย.63) แนวโน้มไตรมาส 2/2563-2564 (ก.ค.-ก.ย.) ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทุกธุรกิจทั้ง Aeroflex, Aeroklas, และ EPP ฟื้นตัวแล้ว รวมทั้งคาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทย่อยและการร่วมทุน


สำหรับ Aeroflex ยอดขายใน ในไตรมาส 2/2563-2564 (ก.ค.-ก.ย.) คาดว่าจะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า หนุนโดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องทั้งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไทย อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากยุโรป การเปิดตลาดใหม่ไปยังภูใมิภาคตะวันออกกลาง การส่งสินค้าได้มากขึ้น ภายหลังการผ่อนคลายการปิดเมืองของหลายๆ ประเทศ แต่ยังคงลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่คาดว่ายังคงรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมายที่ 40-42% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและมาตราการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ


ในส่วนของAeroklas ยอดขายในไตรมาส 2/2563-2564 คาดว่าจะเติบโต จากไตรมาสก่อนหน้า เช่นกัน จากการกลับมาดำเนินการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์และยอดขายรถยนต์ที่ฟื้นตัวในหลายประเทศแต่ยังคงลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่คาดว่ายังคงรักษษระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมายที่ 23-25% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและมาตราลดค่าใช้จ่ายต่างๆ คำแนะนำพื้นฐาน คาดการณ์การฟื้นตัว จากไตรมาก่อนหน้า ของกำไรหลักใน ในไตรมาส 2/2563-2564 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นมูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงถูก ทั้งนี้มีอัพไซต์ต่อแนวโน้มกำไร หากอุปสงค์ฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาด ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X