> SET >

03 กันยายน 2020 เวลา 07:45 น.

จัดแพ็คเรียกศรัทธาศก. เท6.8หมื่นล.ชุบค้าปลีก

ทันหุ้น - สู้โควิด – ศบศ.เรียกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ จัด 2 แพ็กเกจ วงเงินรวม 6.8 หมื่นล้านบาท สั่งอุดหนุนค่าใช้จ่าย 3 เดือน 50% รวมไม่เกินรายละ 3,000 บาท 15 ล้านคน พร้อมให้เงินเดือนบริษัทจ้างงานเด็กจบใหม่ 50% นักวิเคราะห์ชี้เข้ากลุ่มหุ้นค้าปลีกเต็มๆ ทั้ง CRC เป้า 33.50 บาท, CPALL ที่ 75.50 บาท, และ SPVI เป้า 3.40 บาท


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ว่าได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้น-ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่สำคัญ 2 มาตรการ วงเงินรวมประมาณ 6.8 หมื่นล้านบาท โดยได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปเร่งศึกษารายละเอียดการดำเนินงานให้รอบคอบ เพื่อนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอน ประกอบด้วย


1.มาตรการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ตั้งแต่ระดับป.ตรี , ปวส. และปวช. จำนวน 260,000 อัตรา วงเงินรวม 23,000 ล้านบาท โดยมีอัตราค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา 9,400 – 15,000 บาทต่อเดือนโดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินค่าจ้าง 50% ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา ในกรอบระยะเวลาการจ้างงาน 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564


และ 2.ได้เห็นชอบในหลักการมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป วงเงินรวม 45,000 ล้านบาท ลักษณะการดำเนินงานจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% สำหรับการจ่ายผ่าน G-Wallet ณ ร้านค้ารายย่อย ร้านหาบเร่แผงลอยทั่วประเทศ กลุ่มเป้าหมาย คือ คนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ราว 15 ล้านคน วงเงินคนละ 3,000 บาท มีกำหนดให้ใช้ภายใน 3 เดือน (เฉลี่ยวันละ 100 บาท) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคม 2563 นี้


กระตุ้นกลุ่มค้าปลีก


นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการเร่งดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) งวดไตรมาส 3/2563 จะฟื้นตัวได้จากไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี และมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องในงวดไตรมาส 4/2563


สำหรับ 2 มาตรการที่ออกมากนั้น คือ 1.มาตรการชิมช้อปใช้ ดังที่เคยออกมาช่วงปลายปี 2562 มาต่อยอดเพิ่มเติมโดยจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้น เช่น แผงลอย, รถเข็น, ตลาดนัด, ตลาดสด อาจเป็นในรูปแบบที่รัฐร่วมจ่าย (Copayment) และ2. มาตรการส่งเสริมการจ้างงาน: เน้นส่งเสริมกลุ่มผู้ที่จบการศึกษาใหม่ ผ่านการอุดหนุนเงินเดือนเป็นบางส่วน


เบื้องต้น ประเมินว่าอาจสามารถช่วยประคองเศรฐกิจไทยไว้ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากมาตรการส่วนใหญ่ มีรูปแบบคล้ายชุดมาตรการเดิม จึงไม่น่าจะสามารถเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ เห็นได้จากผลสัมฤทธิ์ของมาตรการชิม ช้อป ใช้เมื่อปี 2562 มีเม็ดเงินอัดฉีดลงสู่ระบบจากทั้ง 2 กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น 2.88 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 0.1-0.2% ของ GDP


อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการชุดใหม่ดังกล่าวจะเป็นจะ Sentiment เชิงบวกในหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ CRC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 33.50, CPALL แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 75.50 บาท, และ SPVI ราคาเหมาะสมที่ 3.40 บาท พร้อมกันนี้หุ้นที่จะได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากการที่ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขายสินค้าได้คือ BJC และ MAKRO


“การจ้างงาน คือการที่ประชาชนมีเงินเดือนในการดำรงชีพก็เป็นการกระตุ้นยอดซื้อต่อสาชาของกลุ่มค้าปลีกอย่าง 7-11 ที่กระจายอยู่ในชุมชนทั่วประเทศ และ CRC ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ได้รับความนิยมจากทุกกลุ่มและมีสาขากระจายอยู่ในทุกจังหวัดขนาดใหญ่ รวมถึงการลดภาระค่าใช้จ่ายรายวัน แม้ว่าจะเน้นการใช้จ่ายร้านค้าย่อยทั่วประเทศ แต่กลุ่มผู้ค้าก็จะมาซื้อวัตถุดิบต่างๆ จากแม็กโคร และบิ๊กซี”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X