ทันหุ้น – JKN คาดยอดขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศจะกลับมาเติบโตได้ดีในครึ่งปีหลัง จากฐานลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่าง ภูฏาน และบังคลาเทศ เป็นต้น พร้อมเดินหน้าซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนท์เพิ่มหลังราคาลดจากผลกระทบโคควิด-19 หนุนอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ทิศทางรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเน้นที่การขายคอนเทนท์ (Content)ในประเทศ และส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนท์ไปยังต่างประเทศ โดยในครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศจะกลับมาเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากการเดินหน้าจัดการลูกหนี้การค้าที่ค้างชำระในปัจจุบันให้หมด จากปีก่อนเก็บเงินได้จากลูกค้าค่อนข้างน้อย ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้มากขึ้น

พร้อมกันนี้เริ่มมีการขายคอนเทนท์มากขึ้น โดยมีประเทศใหม่ ๆ เข้ามาเป็นลูกค้า เช่น ภูฏาน และบังคลาเทศ และเจรจาขายให้กับกลุ่มตะวันออกกลาง ทวีปลาตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ น่าจะมีรายได้เข้ามาเพิ่ม นอกจากนี้บริษัทมีการจัดตั้ง บริษัทย่อยในสิงคโปร์รองรับแผนขยายตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์สำหรับตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทถือว่าได้รับผลดีจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพราะยอดขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ในประเทศเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นไปตามภาวะการกักตัว ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น แต่ว่าในตลาดต่างประเทศคอนเทนท์ถือว่าชะลอตัว เนื่องจากไม่สามารถส่งออกได้ 

 ครึ่งแรกผลงานดี

สำหรับครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2563) บริษัทมีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท และมีรายได้รวม 916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 869 ล้านบาท

เเละทางด้านค่าลิขสิทธิ์คอนเทนท์ในปี 2563คาดว่าจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19ทำให้ค่าลิขสิทธิ์ของบริษัทต่อต้นทุนต่ำลง ซึ่งคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันบริษัทยังมีคอนเทนท์ที่รอส่งมอบ (Backlog) ที่ 335 ล้านบาท ที่จะรับรู้ในครึ่งปีหลัง  รวมถึงที่ผ่านมาบริษัท มีการทำสัญญาและจ่ายเงินล่วงหน้า ดังนั้นคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีอาจจะไม่มีการชำระเงินล่วงหน้าก้อนใหญ่เกิดขึ้น เเละบริษัทบริหารความเสี่ยงในเรื่องของลูกหนี้การค้า โดยเจรจาให้ลูกค้าที่ค้างชําระ ให้ทำการจ่ายชําระหนี้ก่อน ถึงจะส่งสินค้าให้

โบรกเคาะราคา 7.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN คาดกำไรสุทธิปี 2563 จะเติบโตต่อเนื่องที่ double digits YoY หนุนโดย GPM ที่ขยายตัวจาก amortization ที่ลดลง เนื่องจาก JKN ได้ต่อรองกับ broadcaster เพื่อลดราคาค่าลิขสิทธิ์, ขยายระยะสัญญาของลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขาย และ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ (SG&A expenses) ที่ปรับตัวลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการจัด events ที่ลดลงจาก โควิด-19

โดยกำไรสุทธิครึ่งปีหลัง 2563 จะขยายตัวเทียบกับปีก่อน จากรายได้ต่างประเทศที่ขยายตัว และรายได้ในประเทศที่เติบโตต่อเนื่องจากการได้สัญญาการขายช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น อีกทั้ง Content cost ในปี 2563 มีราคาที่ลดลงจาก broadcaster ต่างประเทศ ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจซื้อคอนเทนต์เพิ่มขึ้นเพื่อลดต้นทุน

ด้านโปรเจ็คสยามรามเกียรติ์ได้เลื่อนการถ่ายทำออกไปเนื่องจากทางอินเดียได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากเดิมจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2564 และ JKN CNBC ยังขาดทุนอยู่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อไตรมาส คาดเห็นการฟื้นตัวในปี 2564 อย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ช่องทางการออกอากาศ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.50 บาท จากการปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น โดยกำไรสุทธิปี 2562-2565 ยังคงเติบโตต่อเนื่องที่ และยังมี upside จากรายได้ต่างประเทศที่ดีกว่าคาด