31 สิงหาคม 2020 เวลา 09:15 น.
ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุ SET Index ปิดที่ระดับ 1323.31 จุด (-3.50 จุด) ดัชนีกลับลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1332 จุด (High เดิมที่เคยทะลุขึ้นมาฯ) สัญญาณ Stochastic ในภาพราย 240 นาที เส้น %K กำลังตัดเส้น %D ลงจากเขต Overbought ให้ระวังการเข้าสู่รอบการชะลอตัว
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น ทยอยลดพอร์ตการลงทุน จนกว่าจะเกิดสัญญาณการกลับตัว
ไม่มีหุ้น รอซื้อเก็งกำไรที่บริเวณแนวรับ 1310 จุด เน้นเป็นการ Trading ระยะสั้น
ประเมินแนวรับ 1310/1300 แนวต้าน 1326/1336
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดกรอบดัชนีฯ(31 ส.ค.- 3 ก.ย.63 ) 1310-1350 จุด ตลาดได้ผลบวกจาก Fed เตรียมปรับนโยบายการเงินมาระดับหนึ่งแล้ว สัปดาห์นี้คาดความคืบหน้าเรื่องวัคซีน การเตรียมเปิดให้เดินทางข้ามประเทศ จะหนุนตลาดต่อไปได้ ตัวแปรนอกจากนี้ จะเป็น ตัวเลข PMI ที่จะบ่งชี้กิจกรมทางเศรษฐกิจของประเทศสำคัญๆ มาตรการเศรษฐกิจ การเมืองของไทยเอง และตลาดหุ้นเปิดทำการ 4 วันก่อนหยุดยาว
การติดเชื้อ Covid-19 ยังมีเพิ่มขึ้น ใกล้ไทยคือเมียนม่า ขณะที่ความคืบหน้าวัคซีนคาดจะพัฒนาการไปได้มากขึ้นตามลำดับรวมทั้ง tester ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักในทางบวก การผ่อนคลายการเดินทางต่างประเทศ เป็นข่าวบวกแต่ไม่มากนัก เราเชื่อว่าคนเดินทางในรอบแรกๆ ส่วนใหญ่จะเพื่อติดต่อธุรกิจหรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง มากกว่าที่จะเป็นนักท่องเที่ยว(เพราะยังกลัวการติดเชื้อ)
ด้านความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐฯ-จีน ยังอึมครึม สหรัฐฯ เองก็ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกขณะจึงกลายเป็นประเด็นที่นำมาใช้หาเสียงด้วย การเมืองในประเทศ ดูแก้รัฐธรรมนูญและการชุมนุม แต่เวลานี้ยังไม่มีอะไรน่าวิตกนัก น่าไปสนใจกับมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลและนโยบายของ ธปท.มากกว่า
Event สำคัญๆ ตัวเลข PMI ของ จีน-สหรัฐฯ-อียู รายงานเศรษฐกิจเดือน ก.ค.โดย ธปท.(31) และตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ (4)
#Strategy
ดัชนีฯ สามารถขึ้นมายืนเหนือ 1320 ได้แล้ว คาดหากไม่มีข่าวลบ จะขยับขึ้นไปที่ 1340-1350 จุด สัปดาห์นี้ยังเน้นเล่นรอบสั้นๆ เนื่องจากตลาดยังไม่เสถียร อ่อนไหวต่อข่าวลบมาก คาดจะมีการลงทุนในลักษณะเวียนกลุ่มเล่นไปเรื่อยๆ หุ้นที่ควรให้ความสนใจ จะเป็นหุ้นที่มีข่าวบวก หรือหุ้นเคยได้รับผลกระทบจาก Covid-19 และมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว
หุ้นในพอร์ต วันนี้ เรานำ ขาย EPG, TSE, TVO, CRC ออก และซื้อ AU, ICHI, ILM หุ้นพอร์ตหลักจะประกอบด้วย AU(10%), ICHI(10%), ILM(10%), CENTEL(20%), HANA(10%), ASIAN(10%) ส่วนพอร์ต LH*(10%), PTTGC (10%), SAWAD(20%)
#Strategy top picks
SAWAD (เป้าเชิงกลยุทธ์ 52 บาท) –ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัว ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีโอกาสที่ลูกหนี้จะหันไปกู้ สถาบันการเงินที่เป็น non-bank มากขึ้น เราจึงเชื่อมั่นว่าราคาหุ้นในกลุ่ม Finance จะกลับมาเทรดที่ระดับปกติ จากก่อนหน้าเทรดที่ Discount ผลการดำเนินงานที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q20 และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีหน้า(2021)
Technical:CK, CFRESH
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม