โบรกคาด SET ปรับขึ้นกรอบจำกัด ยืนเหนือ 1320 จุด แนะถือต่อ-เข้าซื้อเพิ่ม

ทันหุ้น-สู้โควิด : ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มุมมอง SET Index ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ จะยังบวกในกรอบแคบๆ ต่อไป (sideways up)... หลังจากเมื่อวานนี้ แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มไฟฟ้า ค้ำดัชนีปิดบวกเล็กน้อย (ตามคาด)... ขณะที่ในวันนี้มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบเข้าสู่ตลาด แต่ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าปัจจัยบวกมีน้ำหนักมากกว่า

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: i) ประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงในการสัมมนาประจำปี นำเสนอนโยบาย 'average inflation targeting' ซึ่งเฟดจะยอมปล่อยให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงเกินเป้าหมาย 2% ได้หากเงินเฟ้อในช่วงก่อนหน้าอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย (เช่นช่วงนี้) ซึ่งนโยบายดังกล่าวทำให้ตลาดเชื่อว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยใกล้ 0% ไปอีกยาวนานมาก.... อย่างไรก็ดี ประเด็นของ COVID-19 เป็นลบเล็กน้อย หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 2.7 แสนคนต่อวัน และประเทศเพื่อนบ้านของไทยเริ่มมีการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น ล่าสุดประเทศพม่าประกาศล็อกดาวน์ อาจส่งผลกระทบบ้างต่อการค้าชายแดนของไทย

ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) นักลงทุนยังคงติดตามแนวทางของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีก 3 ภาคส่วน ซึ่งน่าจะมีรายละเอียดออกมาใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ หลังจาก ครม. ได้อนุมัติมาตรการหนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศไปแล้ว ii) รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. ซึ่งทาง ธปท. จะรายงานในวันที่ 31 ส.ค.

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BEM*, CPF*, BGRIM*

BEM* (เป้าพื้นฐาน 11.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.2 บาท / แนวต้าน 9.35 - 9.60 บาท (Stop loss 9.0 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานฟื้นตัวแบบ V-shape ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน 3) Catalyst จากข่าวการประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สีส้มตะวันตก i) จากการแก้ไขร่าง TOR ใหม่ (เพิ่มคะแนนด้านเทคนิค) ทำให้กลุ่ม CK* - BEM* มีโอกาสมากขึ้น ii) กรณีแพ้ประมูลโครงการนี้ก็จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบหลักของ BEM* อยู่ดี

CPF* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 33 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 36.5 บาท (Trailing stop 32.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 (โดยเฉพาะ 3Q63) จะเติบโตเด่นต่อเนื่องจาก i) ราคาเนื้อสัตว์ที่ยืนสูง โดยเฉพาะหมู ii) ต้นทุนอาหารสัตว์ยังต่ำต่อเนื่อง iii) การส่งออกไก่ คาดฟื้นตัวในช่วง High season + วิกฤตโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย

BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 60.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 47 บาท / แนวต้าน 50 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 52 บาท โดยอยู่ระหว่างทดสอบแนวต้านค่าเฉลี่ย 200 วัน EMA ที่ ±48 บาท (Stop loss 45.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 รับอานิสงส์ i) ดีมานด์ใช้ไฟฟ้าจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมฯฟื้น + ii) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลง เป็นบวกต่ออัตรากำไร 3) มี Catalyst การลงทุนใหม่ๆที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ (ผู้บริหารยืนยันยังไม่มีการเพิ่มทุนเร็วๆนี้)

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีกเล็กน้อย Fed แถลงปรับนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาด Covid-19 กดดันตลาดน้อยลง และประเทศต่างๆ กำลังพิจารณาเปิดประเทศรวมทั้งของไทยด้วย จับตามาตรการอุ้มลูกหนี้มีผลต่อหุ้นธนาคาร กลยุทธ์วันนี้ ดัชนีฯ ยืนเหนือ 1320 จุดได้แล้ว เราแนะนำถือต่อ หรือเข้าซื้อเพิ่ม เน้นเก็งกำไรไปก่อน

นาย Jerome Powell แถลงในงานประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวานนี้ ว่าจะมีการปรับนโยบายการเงินครั้งใหญ่ ในส่วนของเป้าหมายเงินเฟ้อไปเป็น "ค่าเฉลี่ย" เพื่อทำให้ Fed มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผลต่อตลาดหุ้นคือ Fed จะตรึงดอกเบี้ยในระดับไปได้อีกระยะหนึ่ง แม้เงินเฟ้อจะสูงขึ้น ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเร็วขึ้น เราน่าจะเป็นการปรับพอร์ตลงทุนเพื่อรับภาวะดอกเบี้ยต่ำในระยะยาว (1 ปี) ดีต่อตลาดหุ้น โดยเงินลงทุนบางส่วนจะถูกโยกมาจากตลาดพันธบัตรและทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดหวังในเรื่องนี้ไว้ระดับหนึ่งแล้ว ตลาดหุ้นไทยจึงปรับตัวขึ้นไม่ได้มากนักในวันนี้

Covid-19 เริ่มกดดันตลาดน้อยลง วัคซีนมีความคืบหน้า สหรัฐฯเตรียมซื้อตัวตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพจาก Abbott แบะการเปิดประเทศจะเริ่มในอีกไม่นาน (รอบแรกคนเดินทางน่าจะเป็นนักธุรกิจ หรือผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางมากกว่าที่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว)

ในประเทศ วันนี้ ติดตามผลกระทบต่อหุ้นธนาคาร หลัง ธปท.ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติมด้วยวิธีการรวมหนี้ (หนี้ส่วนบุคคล มารวมวงเงินเดียวกับสินเชื่อบ้าน) วันนี้ 7 สายการบิน จะเข้าพบนายกฯ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในเรื่องการช่วยเหลือจากผลกระทบ Covid-19 ของสายการบิน

Strategy

ยังมองตลาดบวกได้ แม้จะมีตัวถ่วง คือ หุ้นธนาคารเข้ามา โดยยังแนะนำถือต่อ หรือเข้าซื้อเพิ่ม เลือกหุ้นที่มีข่าวบวก หรือหุ้นเคยได้รับผลกระทบจาก Covid-19 และมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว

หุ้นในพอร์ต วันนี้ เรานำ DOHOME ออก และเพิ่ม CENTEL เข้ามาแทน หุ้นพอร์ตหลักจะประกอบด้วย CENTEL(20%), ASIAN(10%), TVO(10%), EPG(10%), TSE*(10%), HANA(10%) … ส่วนพอร์ต KTBST SET50 (Skynet)  SAWAD(20%), LH*(10%), PTTGC (10%), CRC(20%)

Strategy Stock Pick

SAWAD (เป้าเชิงกลยุทธ์ 50 บาท) -ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัว

ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีโอกาสที่ลูกหนี้จะหันไปกู้ สถาบันการเงินที่เป็น non-bank มากขึ้น เราจึงเชื่อมั่นว่าราคาหุ้นในกลุ่ม Finance จะกลับมาเทรดที่ระดับปกติ จากก่อนหน้าเทรดที่ Discount ผลการดำเนินงานที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q20 และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2021E

Technical : BBL, AAV

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1