> SET >

24 สิงหาคม 2020 เวลา 08:00 น.

เจาะพลังงานดันเศรษฐกิจ บจ.รับอานิสงส์มาพรึบ

ทุกสายตาจับจ้องไปยัง "สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับการเปิดเผยนโยบายพลังงานครั้งแรก!


ปรากฎว่า สิ่งที่เจ้ากระทรวงพลังงานป้ายแดงดำเนินการ ทำเอาหลายฝ่ายใจชื้น เพราะแทบจะทุกโครงการคือการสานต่อนโยบายของ อดีตรัฐมนตรีพลังงาน "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นั้นก็คือ การใช้ "พลังงาน" กระตุ้น "เศรษฐกิจ"


"นโยบายของกระทรวงพลังงาน จะเน้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างงานสร้างรายได้ รวมถึงวางรากฐานเพื่ออนาคตด้านพลังงานของประเทศ โดยจะเน้นการลงมือทำให้สำเร็จ (Execution) ซึ่งได้มอบให้ผู้บริหาร ทำแผนระยะ 5 ปี ที่กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้ติดตามได้อย่างใกล้ชิด สำหรับโครงการที่ต่อเนื่องจะยังคงเดินหน้าต่อไป" สุพัฒนพงษ์ กล่าว


@โรงไฟฟ้าชุมชน

โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมีรูปแบบที่ส่งผลประโยชน์โดยตรงกับเกษตรกรหรือชุมชน ด้วยหลักเกณฑ์ที่กำหนดก่อนหน้าว่าจะต้องเป็นโรงไฟฟ้าที่ ซื้อวัตถุดิบทางการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงาน ขณะเดียวกันโครงสร้างผู้ถือหุ้นจะต้องแบ่งหุ้นให้กับกลุ่มเกษตรกรด้วย และในการขายไฟฟ้าจะต้องให้ส่วนแบ่ง 0.25 บาทต่อหน่วยเข้ากองทุน


มีการประเมินว่า กรณีโรงไฟฟ้าชุมชนมีกำลังผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ ต่อ 1 โรงไฟฟ้า เกษตรกรจะมีรายได้จากการขายเชื้อเพลิง 170 ล้านบาทต่อปี ส่วนแบ่งค่าไฟฟ้า 0.25 บาทต่อหน่อย 17 ล้านบาทต่อปี เงินปันผลจากการถือหุ้น10% อีก 7.6 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า รายได้จากการจ้างงานในพื้นที่ เงินพิเศษเพื่อกิจกรรมชุมชน รวมๆมีมูลค่า 200 ล้านบาท ต่อปีทางตรง ไม่ยังไม่รวมถึงรอบการหมุนของเงิน


นอกจากเกษตรกรเฮแล้ว ในส่วนเอกชนก็โครงการนี้ไว้อยู่มาก โดยทั้ง ACE , NER , UAC , TPCH ก็พร้อมลงทุนเข้าชิงชัยคว้า PPA โดยหลักเกณฑ์สำคัญที่ รองนายกฯและรัฐมนตรีพลังงาน ให้ไว้ก็คือโครงการนี้จะต้องทำให้ชุมชนได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง มีความยั่งยืน วัตถุดิบต่างๆ จะต้องซื้อจากชุมชนจะไปนำเข้ามาจากที่อื่นไม่ได้ ส่วนขั้นตอนจากนี้ก็จะใช้ระยะเวลา 30วัน ในการพิจารณาหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และให้เอกชนผู้ที่สนใจเข้ายื่นข้อเสนอ


โดย "รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์" ได้บอกใบ้ออกมาก็คือโครงการนี้จะไม่ล่าช้ามากนัก เพราะแผนงานดังกล่าวจะเข้าเป็นบทแทรกเข้าไปในแผนPDP2018 ไม่ถึงขั้นต้องแก้ไขหลักเกณฑ์แผน PDP2018


“โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนก็เดินหน้าต่อ แต่ต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนก่อน ให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ชุมชน มีพืชหมุนเวียน เพราะไม่ใช่แต่การทำโรงไฟฟ้า ต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนสูงสุด และ ดำเนินมาตรการการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยกลับคืนมาโดยเร็วและเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง“นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว


@ หนุนไบโอดีเซล-ขยายสายส่ง

นอกจากนี้คงเดินหน้าปั้นราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น ด้วยการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ แก๊สโซฮอล์ E20 หรือ ไบโอดีเซล B10 ควบคู่ไปกับมาตรการป้องปรามการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์มอย่างรัดกุม รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยใช้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเป็นกลไกขับเคลื่อน อันนี้บริษัทผลิตไบโอดีเซล อย่าง PTG GGC BCP AI ได้รับประโยชน์


ส่วนเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือการผลักดันให้ไทยเป็น Regional Hub ด้านไฟฟ้า เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายไฟฟ้าระหว่างประเทศ ปัจจุบันไทยมีไฟฟ้าเหลือเฟือ และมีปริมาณสำรองเกินราว 40% ดังนั้นการที่ไทยจะเป็นตัวกลางส่งไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้านที่ยังต้องการใช้ไฟฟ้าจำนวนมากอย่าง กัมพูชา เมียนมา จึงเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์


ขั้นตอนนี้ กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเอกชนไปศึกษาการขยายโครงข่ายสายส่งไปยังกลุ่มประเทศภูมิภาค คาดจะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งหุ้นที่เกียวกับกับสายส่ง การก่อสร้างสายส่ง มีโอกาสได้รับประโยชน์ เช่น GUNKUL STARK

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X