> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ >

19 สิงหาคม 2020 เวลา 16:10 น.

เน้นหุ้นกำไรดีต้านการปรับฐานของตลาด

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ตลาดหุ้นไทยบ้านเราแสดงถึงการปรับฐานที่ชัดเจนขึ้น และรอบนี้มีแนวโน้มกลับลงมาหาฐานแถวบริเวณ 1300 จุดอีกครั้ง โดยปัจจัยกดดัน SET ยังมองว่าเกิดจาก ประเด็นต่างๆ ดังนี้ครับ


1) การกลับมาระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ในหลายพื้นที่ ซึ่งได้สร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ


2) ราคาน้ำมันคาดว่าจะเริ่มปรับตัวลง ด้วยความกังวลในด้านอุปสงค์ จากการกลับมาระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 และตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงสิ้นปีนี้ กลุ่ม OPEC+ จะลดกำลังการผลิตลงจาก 9.7 เหลือ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ที่คาดว่าจะนำตลาดปรับตัวลง


3) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีน ที่เป็นปัจจัยเข้ามากระทบตลาดเป็นระยะๆ


และ 4) มูลค่าของ SET ยังตึงตัว โดยบริเวณ 1300 จุด หากอิงกำไรในปีหน้า SET ยังเทรด P/E ระดับสูงที่ 17.8 เท่า โดยกำไรของตลาดยังคงถูกปรับลดประมาณการอย่างต่อเนื่อง ส่วนกำไรใน Q2/63 ที่บริษัทจดทะเบียนเกือบทั้งหมดได้ประกาศไปแล้ว มีกำไรใน Q2/63 ลดลง 33%YoY แต่เพิ่มขึ้น 57%QoQ โดยกำไรที่โต QoQ หลักๆ มาจากกลุ่มพลังงานที่ไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากเหมือนใน Q1/63และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มการแพทย์ ส่วนกำไรที่ลดลง YoY เนื่องมาจากแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการ Lockdown หลังเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะกลุ่มขนส่ง ธนาคาร และกลุ่มพลังงาน  ทั้งนี้ กำไรที่ออกมาจริงนั้นต่ำกว่า consensus อยู่ประมาณ 10%


ด้านกลยุทธ์การลงทุนสำหรับการเข้าตลาดหุ้นในช่วงนี้ ผมแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากตลาดหุ้นยังมีความผันผวนและแนวโน้มหลักยังคาดว่าอยู่ในทิศทางขาลง สำหรับด้านกลุ่มหุ้นที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง หรือลดน้ำหนักลง ได้แก่


· กลุ่มพลังงาน ในส่วนน้ำมัน โรงกลั่น และกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากมองว่ายังมี downside จากทิศทางของราคาน้ำมันที่มีโอกาสพักฐาน


· กลุ่มแบงก์ และกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาจากปัจจัยหนุนในเรื่องความคืบหน้าของวัคซีน ให้ใช้เป็นโอกาสในการทยอยขาย เนื่องจากมองว่าเป็นเพียงปัจจัยบวกระยะสั้น ขณะที่แนวโน้มของผลการดำเนินงานยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างยาก

ทั้งนี้ เนื่องจาก SET ช่วงนี้ได้เข้าสู่ช่วงของการปรับฐานแล้ว ทำให้หุ้นหลายตัวในตลาด จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตาม ผมแนะนำให้ใช้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมในกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวเด่น หรือกำไรมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ซึ่งได้แก่


1) GFPT คาดกำไรฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2H63 ไปถึงปี 64 จากที่ราคาไก่ในประเทศฟื้นตัว อีกทั้งจะเริ่มเดินเครื่องสายการผลิตทดแทนหลังเพลิงไหม้ และมีสายการผลิตใหม่ หนุนกำลังผลิตปรับเพิ่มอีก 30%


2) BCH มองว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มดีขึ้นใน 2H63 จากการกลับมาใช้บริการของผู้ป่วยคนไทย และบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ค่อยๆ ฟื้นตัว


3) CHG มองผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องใน 2H63 จากการกลับมาใช้บริการของผู้ป่วยคนไทยและผู้ป่วยชาวต่างชาติ


4) BEM โดยคาด 2H63 Traffic บนทางด่วนและ MRT จะฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง หลังจากรัฐได้คลายล็อกดาวน์ อีกทั้งยังมี Upside Risk จากการชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (1.5 บาท/หุ้น) และสายสีม่วงใต้ (0.75 บาท/หุ้น)


5) ILINK โดยคาด 2H63 จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทั้ง HoH และ YoY จากการเติบโตของรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจหลัก และการไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนในโครงการ CC3 หลังเตรียมส่งมอบงานปลายเดือนนี้...และพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ ด้วยรักและหวังดี

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X