ทันหุ้น –สู้โควิด –ZEN แย้มครึ่งหลังปี 2563 มาร์จิ้นแจ่มกว่าครึ่งแรกปีนี้ รับยอดขายสาขาเดิมฟื้นตัวเด่น แถมเดินหน้ารุกเดลิเวอร์รี่-รีเทลล์ ขยายช่องรับทรัพย์เพิ่ม ส่วนปีนี้วางเป้ายอดเดลิเวอร์รี่พุ่งเกิน 100% ประมาณ 280-300 ล้านบาท จากปีก่อนที่ราว 120ล้านบาท รับเทรนด์ทานอาหารที่บ้านบูม

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มอัตรากำไรสุทธิ (มาร์จิ้น) ครึ่งหลังปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งแรกปีนี้ที่ติดลบ -6.87% หลังแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของธุรกิจจะฟื้นตัวในไตรมาส 3-4 ปีนี้ ต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มียอดขายเฉลี่ยมากกว่า 80%ประกอบกับยังมีแนวทางการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ให้มีประสิทธิ์ภาพยิ่งขึ้น

“ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากนี้เราเองจะพยายามปรับปรุงและพัฒนาระบบการในส่วนต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและสามารถให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้คาดน่าจะได้เห็นมาร์จิ้นขยับเพิ่มเป็นอยู่ที่ราว 6-8% ใน 3 ปีข้างหน้า จากเดิมในภาวะปกติที่เฉลี่ยราว 3%” นายบุญยงกล่าว

อย่างไรก็ดี ในปี 2563 บริษัทประเมินรายได้คงอ่อนตัวลงจากปีก่อนที่ 3.14 พันล้านบาท ผลมาจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องปิดสาขาของร้านอาหารภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา และรายได้หายไปพอสมควร

*ปีนี้เดลิเวอร์รี่โตเกิน100%

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ ZEN แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหารภายใต้การบริหารงานของบริษัทประมาณ 63.5%, การส่งอาหารไปตามบ้าน (เดลิเวอร์รี่) อยู่ที่ 20%, แฟรนไชส์ 9.2% ธุรกิจรีเทล อาทิ สินค้าประเภทเครื่องปรุง, อาหารพร้อมทาน ฯลฯ อยู่ที่ 4% และที่เหลือมาจากช่องทางอื่น

นอกจากนี้ บริษัทจะหันมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในส่วนของรีเทลเพิ่มเติม หลังช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มยอดขายปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการในรูปแบบเดลิเวอร์รี่ให้มากขึ้น หลังแนวโน้มความต้องการรับประทานอาหารที่บ้านเริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผลมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยประมาณการยอดขายในส่วนของเดลิเวอร์รี่ปี 2563 จะขยับเพิ่มเป็น 280-300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562ที่ราว 120 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตในช่องทางดังกล่าวมากกว่า 100%

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารของบริษัทนั้นจะมีการเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งคงควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น หวังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

*ลุยเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง

ส่วนแผนการเปิดสาขาในช่วงที่เหลือปี 2563 นั้นยังคงมีต่อเนื่อง จากครึ่งแรกที่มีสาขาให้บริการทั้งหมด 348 สาขา แบ่งเป็น สาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ 193 สาขา (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 55%ของธุรกิจร้านอาหาร), สาขาภายใต้การดำเนินการของบริษัทอีก 155 สาขา (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 45% ของธุรกิจร้านอาหาร)

โดยสาขาที่เปิดใหม่นั้นคงเน้นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากผู้จากลูกค้าและสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี อาทิ AKA, เขียง โดยเฉพาะในส่วนของแบรนด์ AKA ที่มีแนวทางจะเปิดสาขาให้มากขึ้น หลังจากการสำรวจข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มียอดขายฟื้นตัวอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ของธุรกิจ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1