โบรกมอง SET ปัจจัยลบรอบด้าน เน้นตั้งรับ-เลือกหุ้นเป็นรายตัว

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดกรอบดัชนีฯ 1300-1350 จุด  Covid-19 ดูจะมีน้ำหนักน้อยลง เพราะคนเชื่อในเรื่องวัคซีน และมาตรการเศรษฐกิจรอบใหม่ของประเทศต่างๆ แต่นักลงทุนกลับมาความกังวลมากขึ้นต่อความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน รอดูการทำงานครม.ชุดใหม่ และการรายงานกำไร 2Q ช่วงสัปดาห์สุดท้าย  กลยุทธ์ลงทุน เน้นตั้งรับ เล่นสั้นๆ เก็งกำไรหุ้นงบดี เลี่ยงหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน และเพิ่มเงินสดในมือ 

การติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้น แม้จะระแวงว่าหลายประเทศจะติดเชื้อรอบสอง แต่การคิดค้นวัคซีนมีโอกาสสำเร็จ ทำให้ความกังวลลง  ยังคงติดตามงบประมาณเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลัง Trump ใช้อำนาจประธานาธิบดีเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราวว

ตลาดจะถูกถ่วงด้วย ข่าวความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน กำลังสั่นคลอน (TikTok, WeChat)  กระเทือนไปถึงการเจรจาการค้าสองประเทศที่จะเริ่มรอบแรก 15 ส.ค. นี้ 

ตัวแปรในประเทศ รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจใหม่ทั้งสองท่าน (คุณปรีดี-คุณสุพัฒนพงษ์) เริ่มงาน คาดเพียงแค่พยุงตลาดไว้ แต่ต้องรอดูนโยบายเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะเร่งออกมาว่าจะเป็นอย่างไร

รายงานกำไร 2Q  วันสุดท้าย 14 ส.ค. คาดตลาดอาจมีแรงขายหลังส่งงบเสร็จสิ้นลง ตัวเลขเศรษฐกิจและ Event สัปดาห์นี้ งบเยียวยาของสหรัฐฯ, ส่งงบวันสุดท้าย(14) และ MSCI (12)

#Strategy

ตลาดถูกจำกัดกรอบจากปัจจัยลบรอบด้าน มีความกังวลสงครามการค้าเข้ามา  กลยุทธ์  เน้นตั้งรับ เล่นสั้นๆ หรือเก็งกำไรหุ้นงบดี เลี่ยงหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน (กังวล NPLs) และเพิ่มเงินสดในมือเพราะอาจมีแรงขายหลังส่งงบจบทั้งหมด หากแนวโน้ม 3Q-4Q ยังไม่ฟื้นขึ้นมากนัก (มีโอกาสถูกปรับลดกำไรตลาดลงอีก).

หุ้นพอร์ตหลักประกอบด้วย  BGRIM(10%), STGT(10%), TASCO*(10%), ASIAN (10%), TACC (10%)    ส่วนพอร์ต KTBST SET50 (Skynet)  CBG (10%), ADVANC(20%),  BEM(10%) , CPALL (10%), BH(10%)

#Strategy top picks

BGRIM (เป้าเชิงกลยุทธ์ 52 บาท)  ตลาดมีความเสี่ยงเพิ่ม หุ้นโรงไฟฟ้าอาจเป็นที่พักเงิน มองว่า กำไร 2Q  คาดยังดี (654 ลบ. +5% YoY) ภาคอุตสาหกรรมกลับมาผลิต ได้ประโยชน์จากการนำ LNG เข้ามาช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง บริษัทมีการหาโครงการใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ในต่างประเทศ หลักๆ คือ เวียดนาม ขณะที่ของไทยนอกจากโตตามภาคอุตสาหกรรม จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ตามโครงการ Replacement

Technical : TOP, STA

***ด้าน ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ส่องกลยุทธ์วันนี้ แนะระวังแรงทำกำไร ติดตามปัจจัยภายนอก เลือกหุ้นเป็นรายตัว

ประธานาธิปดีสหรัฐฯ ใช้อำนาจยืดเงินช่วยเหลือโควิด โดยการใช้คำสั่งบริหาร (Executive Order) เพื่อยืดการจ่ายเงินชดเชยผู้ว่างงานออกไป (หลังมาตรการหมดอายุ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา) แต่มีการปรับลดเงินช่วยเหลือเหลือ 400 เหรียญฯ (จาก 600 เหรียญฯ) หลังการหารือระหว่างพรรครีพับริกันและเดโมแครตเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ยังไม่ได้ข้อสรุป เราคาดตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไรหลังรับปัจจัยบวกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าไปพอสมควร ขณะที่นักลงทุนมีแนวโน้มระมัดระวังต่อการหารือของผู้แทนการค้าสหรัฐฯ-จีน ในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อทบทวนการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งสถานการณ์โควิดทำให้จีนอาจไม่สามารถบรรลุพันธะตามข้อตกลงการค้า

ค่าเงินเหรียญฯมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น เนื่องจาก 1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค.ดีกว่าคาด (1.763 ล้านตำแหน่ง จากคาด 1.48 ล้านตำแหน่ง) โดยอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 10.2% จาก มิ.ย.ที่ 11.1% 2) อัตราผลตอบแทนแท้จริง หรือ Real Yield (ผลตอบแทนพันธบัตร-เงินเฟ้อ) ปรับตัวขึ้น 3) ความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน 4) ปัจจัยด้านฤดูกาล ที่มักพบการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัญฯ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิปดี

ติดตามการทบทวนหุ้น (Rebalancing) ดัชนี MSCI 12 ส.ค. ว่าจะมีหุ้นใดถูกปรับออกหรือนำเข้าสู่การคำนวณของดัชนี (รวมถึงการปรับเพิ่มลดน้ำหนักรายตัว) ทั้งนี้จากกระแสความนิยมของการลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้มีโอกาสที่จีนและไต้หวัน จะได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีความเสี่ยงที่อาจถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้นได้

Theme การลงทุนที่น่าสนใจ เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร CPF, TU 2) ประกันภัย TIP, THRE 3) ยาง ถุงมือยาง STA, STGT 4) หุ้นปลอดภัย /มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, BCH 5) หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT 6) อื่นๆ AP, AI, CKP // หุ้นที่ต้องระวัง 1) การเงิน SAWAD, MTC, KTC, AEONTS

ดอกเบี้ย‘พิโกไฟแนนซ์’ - จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระยะที่ 2 โดยลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล 2-4% ที่ผ่านมา เพื่อความสอดคล้องกันธปท.จึงอยู่ระหว่างพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยธุรกิจสินเชื่อเพือรายย่อยระดับจังหวัด(พิโกไฟแน้นซ์) โดยปัจจุบันอยู่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 36% ต่อปี

รายได้ลดกระทบท่องเที่ยว – สมาคมโรงแรมไทนชี้ไฮซีซันการท่องเที่ยวปลายปีจะได้รับผลกระทบวิกฤติโควิด เนื่องจากรายได้ครัวเรือนที่ลดลง โดยความนิยมส่วนใหญ่อยู่ที่พัทยา-หัวหิน ขณะที่ภาคใต้ยังต่ำ

GOLD – วันนี้ (10 ส.ค.) เป็นวันซื้อขายสุดท้าย ก่อนเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียน

ภาพรวมกลยุทธ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เตือนให้นักลงทุนระวังความเสี่ยงของการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัญฯ รวมถึงการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯที่กระจุกตัว อาจตามมาด้วยแรงทำกำไร

// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC, TSE*, AJ* / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50), MTC (เป้า 45 ตัดขาดทุน 50.50), AOT (เป้า 45 ตัดขาดทุน 54.25)

แนวรับ 1,300 จุด / แนวต้าน : 1,335 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1